เมื่อวานบินกลับจากภูเก็ตด้วยสายการบินไทยฝ่าพายุยามเย็นในกรุงเทพฯ ทุลักทุเลกระทั่งเครื่องเกือบลงสนามบินสุวรรณภูมิไม่ได้ ลงมาแล้วยังติดค้างรอฝนหยุดตกอยู่ในสนามบินอีกนานนับชั่วโมง เช้านี้มาทำงาน มีแขกจากอินโดนีเซียสองชุดใหญ่มาเยี่ยมเยียน จาก Universitas Muslim Magassar จำนวนเกินสิบคนชุดนึงกับ LPPOM MUI Jakarta องค์กรศาสนาอิสลามอินโดนีเซียเกินสิบคนเหมือนกันอีกชุดนึง ต้องแบ่งห้องต้อนรับ บรรยายให้แขกฟังถึงสิบโมงต้องรีบออกเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิอีกครั้งเพื่อบินไปหาดใหญ่ คำว่าชีพจรลงเท้าใช้ได้กับชีวิตผมในช่วงนี้อย่างพอเหมาะพอเจาะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ผมเดินทางเป็นว่าเล่น นอกประเทศบ้าง ในประเทศบ้าง กระทั่งเริ่มสงสารสังขารของตนเองแล้ว ว่าอย่างนั้นเถอะค่ำนี้ผมมานอนที่โรงแรมอัลฟาฮัจย์ หาดใหญ่ เพื่อประชุมคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย บินมาประชุมถึงหาดใหญ่เพื่อใช้โอกาสไปร่วมงานนิกะฮฺ คุณอาลาวี พิทักษ์คุมพล บุตรชายคนเล็กของท่านจุฬาราชมนตรี อาศิส พิทักษ์คุมพล กับนางสาวณิจชาร์ ชินภัทรภาคิน ในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 ซึ่งไม่ได้จัดที่หาดใหญ่ แต่จัดขึ้นที่บ้านเจ้าสาว อำเภอสะเดา สงขลา ประชุมกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยค่ำนี้ที่โรงแรมอัลฟาฮัจย์ หาดใหญ่เสร็จแล้ว พรุ่งนี้จึงเคลื่อนทัพไปร่วมงานกันที่เมืองสะเดา ซึ่งห่างลงไปทางใต้ 42 กิโลเมตร ติดพรมแดนมาเลเซียปีนี้ผมเดินทางบ่อยเนื่องจากโลกเจอปัญหาการระบาดของโกหวิดนานถึงสามปี การเชิญบรรยายของหลายหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศอัดอั้นมานาน เมื่อได้โอกาส หนังสือเชิญจึงพรั่งพรูเข้ามาจนแทบรับไม่ไหว หลายคำเชิญจำเป็นต้องแบ่งไปให้ทีมงานที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล คัดเลือกสำหรับผมเฉพาะที่สำคัญซึ่งก็ยังคงมากอยู่ดีสำหรับหาดใหญ่และภูเก็ต ผมไม่ได้ลงมานานพอสมควร ภูเก็ตขยายสนามบินกว้างขวางขึ้น หาดใหญ่สนามบินไม่มีอะไรเปลี่ยน ทว่าภายในเมืองมีอาคารสูงเพิ่มจำนวนขึ้น โอกาสทางธุรกิจมีมากขึ้น นักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเดินทางเข้ามาที่หาดใหญ่เต็มไปหมด กระทั่งทำให้ในบรรดานักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ทะลักเข้ามาประเทศไทยจำนวน 18 ล้านคนนับจากต้นปี หาดใหญ่มีนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่มาจากมาเลเซียทำให้ประเทศนี้ขึ้นแท่นเจ้าของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 2 ล้านคน หาดใหญ่วันนี้จึงคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่คือชาวมาเลเซียมองจากห้องบนชั้น 7 โรงแรมอัลฟาฮัจย์ เห็นเมืองหาดใหญ่อยู่ลิบๆ เต็มไปด้วยอาคารสูงกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ 21 ตารางกิโลเมตรของเทศบาลนคร ประชากรประมาณ 1.7 แสนคน จัดเป็นเทศบาลนครที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หาดใหญ่แตกต่างจากเมืองอื่นตรงที่เป็นเมืองที่ไม่ใช่อำเภอเมืองที่ใหญ่ที่สุด เมืองลักษณะเดียวกับหาดใหญ่ในประเทศไทยมีอยู่สองสามเมือง อย่างสุไหงโก-ลก และแม่สอด นั่นคือเป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าเมืองที่เป็นอำเภอเมืองของจังหวัดผมมาพักที่โรงแรมอัลฟาฮัจย์เพียงคืนเดียว เป็นโรงแรมที่มีสภาพใหม่ ห้องหับกว้างขวาง เป็นโรงแรมฮาลาลที่เป็นหน้าเป็นตาของหาดใหญ่ อยากจะนอนสักหลายคืน แต่มีงานรออยู่เพียบที่กรุงเทพฯ เฉพาะโครงการที่รอผมเขียนก็ปาเข้าไปสามโครงการเข้าไปแล้ว หากมัวนอนเพลินอยู่หาดใหญ่ เขียนโครงการไม่เสร็จจะมีหลายคนที่เดือดร้อน #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan,#โรงแรมอัลฟาฮัจย์, #หาดใหญ่
