ผมมาบรรยายเรื่องเทคโนโลยีกับธุรกิจฮาลาลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) อยู่ที่โรงแรมเพิร์ล เมืองภูเก็ต เช้านี้ พฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2566 ผมกับ อ.นิฟาริด ระเด่นอาหมัด รองผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) จาก สนง.ปัตตานี และ อ.ดร.ภราดร สุรีย์พงษ์ ผู้ช่วย ผอ.ศวฮ.สนง.เชียงใหม่ พร้อมทีม ศวฮ.สองคนมาทานอาหารเช้ากันที่ร้านโรตีเจ้าฟ้า อ.นิฟาริดชวนญาติจากรามัน ยะลา มาร่วมโต๊ะด้วย ญาติคนนี้เป็นตำรวจท่องเที่ยว ชื่อ พ.ต.ท.ศักรินทร์ อนุสามัญสกุล หรือ “บังยี” สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต-พังงา นั่งคุยกันสนุก เขามาประจำอยู่ที่สถานีนี้ซึ่งเป็นหนึ่งใน 32 สถานีตำรวจท่องเที่ยวนาน 7 เดือน แต่หัวจิตหัวใจกลายเป็นคนภูเก็ต-พังงาไปแล้วเพิ่งรู้ว่าตำรวจท่องเที่ยวดูแลนักท่องเที่ยวทั่วประเทศเฉพาะชาวต่างชาติกว่า 20 ล้านคน กับชาวไทยเกิน 40 ล้านคนมีกำลังพล 1,800 นายไม่ถึง 1% ของกำลังพลตำรวจทั่วประเทศทว่าดูแลรายได้จำนวนหลายล้านล้านบาท นั่นเป็นเรื่องงานบริหารจัดการ แต่สิ่งที่บังยีห่วงใยคือสวัสดิการของนักท่องเที่ยวทั้งที่ภูเก็ตและพังงา การจราจรจากพังงาหรือจากกระบี่มาภูเก็ตมีสะพานข้ามทะเลเพียงแห่งเดียวคือสะพานสารสินที่การจราจรติดขัดเหลือกำลัง ผมมาภูเก็ตครั้งนี้เป็นพยานได้ดี แต่ละปี รถเป็นแสนเป็นล้านใช้สะพานแห่งนี้ผ่านเข้าเกาะภูเก็ตแล้วกระจายไปทั่วแหล่งท่องเที่ยวของภูเก็ต วันนี้ เราคุยกันเรื่องสะพานข้ามทะเลสมุย คุยเรื่องแลนด์บริดจ์มูลค่าล้านล้านบาท หากแบ่งเวลามาคุยกันเรื่องสะพานข้ามทะเลภูเก็ตแห่งที่สองบ้างก็จะเป็นประโยชน์บังยีแนะนำว่าหากมีสะพานข้ามทะเลจากอ่าวนาง กระบี่ เชื่อมเข้าเกาะยาวน้อย เกาะยาวใหญ่แล้วเข้าภูเก็ต จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ความสวยงามตระการตาไม่ด้อยไปกว่าสะพานติณสูลานนท์ที่สงขลา และสะพานสมุยที่สุราษฎร์ บังยีเสนอไอเดียให้ฝ่ายบริหารและยุทธศาสตร์ของรัฐบาลไว้พิจารณา ผมฟังแล้วเห็นด้วยกับบังยีอย่างเต็มที่ จะเป็นสะพานข้ามทะเลระดับโลกที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและทางพลังละมุนหรือซอฟท์พาวเวอร์ทั้งการท่องเที่ยวและด้านอื่นของภาคใต้พุ่งทะยานไป มั่นใจอย่างนั้น ขอให้ฝันของบังยี ตำรวจน้ำดีอีกคนหนึ่งเป็นจริงด้วยเทอญ อามีน #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #สะพานภูเก็ตแห่งที่สอง@
