กรมสมเด็จพระเทพรัตน์ฯกับบัณฑิตมุสลิมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

เรื่องนี้เคยเขียนไว้นานมากแล้ว มาถึงวันนี้ขอนำกลับมาเขียนใหม่ เรื่องราวเกิดขึ้นในวันหนึ่งของเดือนเมษายน พ.ศ. 2545 ผมถวายการบรรยายเรื่องโภชนาการแด่สมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศขณะนั้น) ณ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา หลังจากนั้น ระหว่างร่วมพระสุธารส พระองค์ทรงเล่าเหตุการณ์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพระราชทานปริญญาช่วงก่อนหน้านั้นว่ามีการห้ามบัณฑิตสตรีมุสลิม (มุสลีมะฮฺ) คลุมฮิญาบขึ้นรับพระราชทานปริญญาบัตร พระองค์ทรงถามผมว่าปัญหานี้ในหลายมหาวิทยาลัยจบลงแล้ว เหตุใดจุฬาลงกรณ์ยังเป็นปัญหาอยู่อีก ผมถวายคำตอบให้ไม่ได้เนื่องจากไม่รับทราบเรื่องราวมาก่อน หลังจากวันนั้นประมาณสองเดือนต่อมา ผมในฐานะคณบดีคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าซ้อมอ่านรายชื่อบัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จึงรับทราบจากประธานพิธีซ้อม รศ.ต่อพงศ์ ยมนาค (ล่วงลับไปแล้ว) ว่ามีบัณฑิตสองคนจากคณะวิทยาศาสตร์ถูกห้ามเข้าซ้อมรับปริญญาในปีนั้นเนื่องจากคลุมหิญาบ เมื่อไม่ซ้อมย่อมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรวันจริงไม่ได้ ฝ่ายพิธีการเข้มงวดเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ไม่งามเช่นปีกลายอีก ฟังเรื่องราวแล้วผมจึงเล่าถึงพระดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตน์ฯให้ท่านประธานพิธีซ้อมฟัง เรื่องดังกล่าวถึงหูท่านอธิการบดี รศ.ดร.ธัชชัย สุมิตร อย่างรวดเร็ว ท่านโทรหาผมทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อถามความเห็นในฐานะมุสลิม ผมแสดงความเห็นไปว่า หิญาบที่สตรีมุสลิมคลุมศีรษะคือส่วนหนึ่งของอาภรณ์ไม่ต่างจากเสื้อผ้า การขอให้สตรีมุสลิมเปลื้องหิญาบย่อมหมายถึงการขอให้เปลื้องอาภรณ์ซึ่งยอมรับกันไม่ได้ ท่านอธิการบดีฟังแล้วตกใจจึงขอให้ผมแจ้งบัณฑิตทั้งสองคนให้ขึ้นไปพบท่าน ผมแนะนำให้บัณฑิตทั้งสองคนสวมชุดเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรขึ้นไปพบท่านอธิการบดีในเวลาต่อมา ทั้งสองคนสวมเสื้อนิสิตสีขาวแขนยาวคลุมผ้าฮิญาบสีขาว กระโปรงสีดำยาวคลุมข้อเท้า ติดเข็มพระเกี้ยวบนผ้าคลุมบริเวณอกด้านขวา สวมครุยปริญญาทับไว้ ท่านอธิการบดีแจ้งผมในภายหลังว่า ชุดบัญฑิตคลุมฮิญาบเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรดูเรียบร้อยและงดงาม ได้ฟังแล้วก็ปลื้มนับจาก พ.ศ.2545 จนถึงทุกวันนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่เคยมีประเด็นการคลุมหิญาบเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรอีกเลย ทั้งหมดเกิดจากพระบารมีของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ ทั้งต้องขอบคุณความกรุณาและความเข้าใจของผู้บริหารระดับอธิการบดีในวันนั้น เหตุการณ์แม้ล่วงเลยมายี่สิบปีกระทั่งหลายคนจดจำกันไม่ได้แล้ว แต่ในฐานะที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ผมอยากให้บัณฑิตมุสลิมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่นหลังได้รับรู้ไว้ เพื่อได้เข้าใจว่าเหตุใดชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่นเก่าจึงรักและเทิดทูนสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนฯราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มากมายนัก#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #กรมสมเด็จพระเทพฯ, #บัณฑิตมุสลิมจุฬา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *