มนุษย์มีความรู้เรื่องชีวิตและจักรวาลน้อยมาก

เมื่อ ค.ศ.1979 หรือ พ.ศ. 2522 องค์การรอบีเฏาะฮฺ (Muslim World League) จัดประกวดหนังสือประวัติศาสดานบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) หนังสือที่ชนะเลิศชื่อ The Sealed Nectar เขียนโดย Safiur Rahman Mubarakpuri นักวิชาการอิสลามชาวอินเดีย ชนะรางวัลจากกษัตริย์คาลิดแห่งซาอุดีอาระเบียจำนวน 50,000 SR เทียบเท่า 5 ล้านบาทของค่าเงินปัจจุบัน นี่คือรางวัลที่เทียบเท่าโนเบลทางวรรณกรรมของโลกอิสลาม วันเวลาผ่านมาสี่สิบปี ความรู้เรื่องอิสลามเพิ่มพูนมากขึ้นจากความรู้ที่ได้มาจากหนังสือที่กล่าวถึงด้านบน ร่วมกับข้อมูลใหม่ๆสรุปได้ว่า โองการแรกของอัลกุรอานประทานลงมายังนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ณ ถ้ำหิรออฺเมืองมักกะฮฺในวันจันทร์ที่ 21 เดือนรอมฎอน ช่วงเวลาอิมซากหรือใกล้รุ่งของวันที่ 10 สิงหาคม ค.ศ.610 นบีมุฮัมมัดเวลานั้นอายุ 39 ปี 3 เดือน 22 วัน นับตามปฏิทินสุริยคติหรือ 40 ปี 6 เดือน 12 วันตามปฏิทินจันทรคติ โองการแรกที่ว่านี้อยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานบทที่ 96 อัลอะลัก (ก้อนเลือด) บัญญัติว่าอัลลอฮฺทรงให้กำเนิดมนุษย์จากอะลัก เมื่อเทียบเคียงความรู้ทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน อะลักประกอบด้วยดีเอ็นเอสามพันล้านคู่เบส มาจากพ่อและแม่อย่างละครึ่ง สร้างสิ่งที่เรียกว่า “ยีน” รวม 2.2 หมื่นยีน ให้ข้อมูลเทียบเท่า 3.437 กิกะไบต์ ในหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ ยีนทั้งหมดนี้ ชายมียีนจากโครโมโซมวายของพ่อจำนวน 42 ยีนซึ่งฝ่ายหญิงไม่มี ทว่าฝ่ายหญิงมี 1,000 ยีนจากโครโมโซมเอ็กซ์ของแม่ มากกว่าชายสองเท่า เป็นยีนที่ทำหน้าที่ด้านการพัฒนาสติปัญญาและภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ทั้งชายและหญิงมี 37 ยีนที่ได้จากแม่เท่านั้นเรียกว่ายีนไมโตคอนเดรีย ทำหน้าที่สร้างพลังงาน หากพิจารณาทางสรีรวิทยาอาจเข้าใจว่าชายแข็งแรงกว่าหญิง เอาเข้าจริง หญิงกลับอดทนต่อความเจ็บปวดได้มากกว่า หากเปลี่ยนการตั้งครรภ์และคลอดบุตรไปอยู่กับฝ่ายชาย มนุษย์เสี่ยงอย่างยิ่งต่อการสูญพันธุ์ ข้อเท็จจริงกลายเป็นอย่างนั้น อัลกุรอานบทนี้ระบุอีกว่าอัลลอฮฺทรงสอนในสิ่งที่มนุษย์ไม่รู้ ทว่ามนุษย์ทะนงตน คิดว่าตนเองรู้มากพอแล้ว จริงหรือไม่ กลับไปดูที่ดีเอ็นเอก็คงเห็น ปรากฏว่าใน 3,000 ล้านคู่เบสของดีเอ็นเอ ส่วนที่กำหนดยีนมีเพียงร้อยละ 1.2 เท่านั้น อีกกว่าร้อยละ 90 เป็นสิ่งที่เรียกว่าดีเอ็นเอขยะ (Junk DNA) จะเรียกว่าดีเอ็นเอมืด (Dark DNA) ก็คงไม่ผิด มนุษย์ไม่รู้ว่ามันทำหน้าที่อะไร สัดส่วนความรู้ในเรื่องชีวิตของมนุษย์จึงมีน้อยมาก เมื่อเปลี่ยนจากดีเอ็นเอไปที่จักรวาล ดวงดาวในจักรวาลคาดว่ามีมากกว่าแสนล้านล้านล้านล้านดวง เรียงร้อยกันเป็นคอสมิกเว็บ (Cosmic web) คิดเป็นมวลได้เพียงร้อยละ 5 ขณะที่ร้อยละ 21 คือสสารมืด (Dark matters) ร้อยละ 74 คือพลังงานมืด (Dark energy) รวมแล้วร้อยละ 95 คือจักรวาลมืด (Dark universe) ที่ยังไม่มีนักดาราศาสตร์คนไหนรู้ว่ามันทำหน้าที่อะไร อัลกุรอานจึงกล่าวไว้ไม่ผิดว่ามนุษย์ยังรู้น้อยทว่าทะนงตนว่ารู้มากพอแล้ว #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #อัลอะลัก, #ชีวิตและจักรวาล

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *