โด๊ปเทคโนโลยีเพื่อเหรียญทองโอลิมปิก

ปีหน้า ค.ศ.2020 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนจะเวียนกลับมาที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง สิ่งที่ฝ่ายจัดการแข่งขันกีฬาค่อนข้างกังวลไม่ใช่เรื่องของการโด๊ปยาแต่เป็น “การโด๊ปเทคโนโลยี” (Technology dope) ซึ่งมีสารพัดแบบ เป็นต้นว่าเทคโนโลยีชุดแข่งขัน หลายปีมาแล้วสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (International Federation of Swimming—FINA) ออกกฎห้ามการใช้ผ้าเท็กซไทล์หรือพลาสติกในการตัดเย็บชุดว่ายน้ำทั้งชายและซึ่งมีผลให้นักว่ายน้ำมีความรวดเร็วมากขึ้น แม้จะหนึ่งหรือสองเปอร์เซ็นต์ก็เกิดความได้เปรียบมากแล้ว

เทคโนโลยีชนิดสวมใส่ได้หรือ wearable technology เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายจัดการแข่งขันให้ความสนใจอย่างมาก ตัวอย่างเช่นแว่นตาอัจฉริยะซึ่งผู้เข้าร่วมแข่งขันไม่ว่าจะเป็นจักรยาน วิ่งปั่น วิ่งมาราธอน ว่ายน้ำ หรือแข่งทางด้านความเร็วอื่นๆหากได้สวมแว่นตาชนิดนี้จะสามารถมองเห็นข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจของตนเองว่าเป็นเท่าไหร่ในขณะนั้น การหายใจเป็นอย่างไร วิ่งด้วยความเร็วระดับไหน นักกีฬาที่เริ่มชินกับเทคโนโลยีกลุ่มนี้จะรู้ว่าในการวิ่งหรือการแข่งขันควรผ่อนหรือเร่งในช่วงไหนจึงจะช่วยให้เกิดความได้เปรียบกระทั่งสามารถคว้าเหรียญทองได้ วิธีการเหล่านี้ถือเป็นการเอาเปรียบคู่แข่ง ปัญหาที่น่ากังวลมากขึ้นคือแว่นวิเศษยุคใหม่บางครั้งดูไม่ออกเลยว่าเป็นแว่น อย่างนี้จะป้องกันอย่างไร

เทคโนโลยีสำหรับนักมวยชนิดที่บอกได้ว่าคู่ต่อสู้ปล่อยหมัดออกมาด้วยความเร็วเท่าไหร่ ให้พลังกำปั้นขนาดไหน อย่างนี้ย่อมช่วยให้นักมวยได้รู้พลังหมัดของตนเอง ทั้งยังช่วยให้หลบหลีกพลังหมัดจากคู่ต่อสู้ได้ด้วย นักยิงธนูมีอุปกรณ์ที่รู้ได้ว่าลูกศรที่ปล่อยออกไปวิ่งไปด้วยความเร็วเท่าไหร่ ออกอาการสะบัดทำให้เฉไฉออกนอกเส้นทางหรือไม่ นักยิงธนูควรจะปล่อยลูกศรออกจากคันธนูในจังหวะใด อุปกรณ์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีที่ว่านี้ถือเป็นการเอาเปรียบคู่ต่อสู้ นักจักรยานทางไกลหรือแม้กระทั่งนักวิ่งมาราธอนระยะไกลมีเสื้อที่มีเส้นใยพิเศษช่วยเติมสารอาหารและเกลือแร่แก่ร่างกายผ่านทางผิวหนังของนักกีฬาได้ เสื้อไฮเทคเหล่านี้ทำให้นักกีฬาไม่รู้สึกอ่อนเพลียหรือสูญเสียเกลือแร่ สามารถแข่งขันในระยะเวลายาวนาน เทคโนโลยีเหล่านี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันอนุญาตให้ใช้เฉพาะในการฝึกซ้อมเท่านั้น ห้ามใช้ในการแข่งขันอย่างเด็ดขาด

การโด๊ปที่น่าเวียนหัวอีกเรื่องหนึ่งเห็นจะเป็นการโด๊ปทางวิชาการ (Academic dope) อย่างเช่นการใช้กระบวนการทางโภชนาการที่เรียกว่า carbo loading ใช้อาหารธรรมดาเร่งการเติมน้ำตาลให้กับกล้ามเนื้อให้สามารถสร้างไกลโคเจนได้มากขึ้นช่วยให้นักกีฬาสามารถออกกำลังกายได้ยาวนานเกินสองชั่วโมง วิธีการเช่นนี้ช่วยให้นักกีฬามีน้ำอดน้ำทนมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกีฬาประเภทที่ต้องแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ซึ่งต้องใช้พลังร่างกายต่อเนื่องกันหลายวัน วิธีการเช่นนี้สามารถสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้ ที่ว่าน่าเวียนหัวก็เพราะกรรมการยังแทบไม่มีวิธการให้จับได้ไล่ทันการโด๊ปลักษณะนี้ บางครั้งกรรมการเองยังสับสนตอบไม่ได้ว่าวิธีการเช่นว่านี้ถือว่าเป็นการโด๊ปหรือเปล่า