อบูอุบัยดะฮฺ (ร.ฎ.) กับบทเรียนการเผชิญโรคระบาดในประวัติศาสตร์อิสลาม

อบูอุบัยดะฮฺ อิบนฺ อัลญัรรอฮฺ (ร.ฎ.) หนึ่งในแม่ทัพยิ่งใหญ่และบุคคลสำคัญในอิสลาม เกิดใน ค.ศ.583 อายุน้อยกว่าท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) 13 ปี เป็นบุรุษสูงโปร่ง เคราสีจาง ฟันหน้าหลอสองซี่เนื่องจากใน ค.ศ.625 ขณะรบในสงครามอูฮุด ท่านนบีมูฮัมมัด (ซ.ล.) ได้รับบาดเจ็บหนัก ลวดจากหมวกเหล็กที่สวมอยู่แทงทะลุเข้าไปในแก้มของท่าน อบูอุบัยดะฮฺใช้ฟันของตนเองดึงลวดกระทั่งฟันหัก อบูอุบัยดะฮฺอยู่เคียงข้างท่านนบีตลอดยุคสมัยได้รับคำชื่นชมมากมาย ทุ่มเททำงานรับใช้อิสลามจนถึงยุคสมัยของคอลีฟะฮฺอุมัร อิบนฺคอฎฎอบ (ร.ฎ.) ระหว่างการศึกที่ดินแดนชามหรือซีเรีย กาฬโรคระบาดหนักในบัสรอฮฺของอิรักก่อนลามเข้าซีเรีย เมื่อรับทราบข่าวโรคระบาด ท่านคอลีฟะฮฺอุมัร (ร.ฎ.) สั่งถอนทัพออกจากพื้นที่ทันที ขณะนำทัพออกจากซีเรียได้พบกับอบูอุบัยดะฮฺ (ร.ฎ.) นำทัพย้อนกลับเข้าไปอันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง

#อบูอุบัยดะฮฺ (ร.ฎ.) แย้งท่านอุมัร (ร.ฎ.) ว่าท่าน “ตะวักกัล” หรือปฏิบัติหน้าที่ตามพระประสงค์ของอัลลอฮฺ (ซ.บ.) แม้ท่านคอลีฟะฮฺจะเตือนให้รำลึกถึงคำสั่งท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ว่าในพื้นที่โรคระบาด ใครอยู่ภายในให้แยกตนเองจากผู้อื่นและอย่าออกมา ใครอยู่ด้านนอกอย่าได้เข้าไป อิสลามมีแนวทางชัดเจนในการเผชิญโรคระบาด ท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) กล่าวย้ำด้วยซ้ำว่าโรคระบาดนั้นเสมือนสิงโต พบแล้วให้หนี การฝืนคำสั่งครั้งนั้นทำให้ท่านคอลีฟะฮฺ (ร.ฎ.) โศกเศร้าอย่างที่สุดเมื่อทราบข่าวว่าท่านอบูอุบัยดะฮฺ (ร.ฎ.) เพื่อนที่ท่านรักมากที่สุดได้เสียชีวิตลงจากกาฬโรคครั้งนั้นในหุบเขาจอร์แดนเมื่อ ค.ศ.639 เป็นการสูญเสียครั้งสำคัญ กลายเป็นบทเรียนในอิสลามให้รำลึกถึงคำสอนของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ในการรับมือกับโรคระบาด

วันเวลาผ่านมา 14 ศตวรรษ การฝ่าฝืนคำตักเตือนของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ยังคงอยู่ด้วยความเชื่อผิดๆในชุมชนมุสลิมบางกลุ่ม ข่าวการชุมนุมของนักวิชาการศาสนาอิสลามกว่าหมื่นคนในงาน Jhor Qudamak & Utamak Malaysia 2020 ณ Sri Petaling Mosque กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม 2020 ทั้งที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรงในมาเลเซียเวลานั้นกลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากการเข้าร่วมงาน โดยในงานนั้นมีคนไทยเข้าร่วม 132 คน เป็นผลให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ประกาศตามหาคนไทยเหล่านั้นและคนใกล้ชิดเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 หากพบเชื้อจะได้ทำการกักกัน รักษาและตรวจสอบในขั้นตอนต่อไป เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่สร้างความวิตกกังวลกันมากในพื้นที่ภาคใต้เวลานี้

การระบาดของ #โรคโควิด-19 กระทบต่อกิจกรรมทางศาสนาอย่างแน่นอน ย้อนหลังกลับไปถึงยุคสมัยของอิสลามในประวัติศาสตร์ การยกเลิกการร่วมชุมนุมในพิธีฮัจญฺหรืออุมเราะฮฺเคยเกิดขึ้นแล้ว แต่ถึงกระนั้นการไม่ร่วมมือ การฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ยังมีอยู่ กลายเป็นความกังวลอย่างยิ่งของทางราชการทั้งไทยและมาเลเซียเวลานี้ซึ่งพยายามอย่างที่สุดที่จะชะลอการเข้าสู่ระยะที่สามของการระบาดของโรคโควิด-19 ให้นานที่สุด หาไม่แล้วอาจเป็นเหมือนประเทศอิตาลีเวลานี้ที่มีประกาศออกมาว่ากรณีผู้ติดเชื้อสูงวัย หรือรุนแรง ทางการอาจไม่เยียวยาเนื่องจากเครื่องมือและกำลังคนไม่เพียงพอ จำเป็นต้องปล่อยให้เสียชีวิตไปกับโรค เชื่อมั่นว่าพวกเราไม่ต้องการเช่นนั้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *