ย้อนรอยศึกษา “ซอลาฮุดดิน” แห่งสงครามครูเสดในอดีตเพื่อแก้ปัญหาอ่าวเปอร์เซียวันนี้ (ตอนที่ 1)

เมื่อหลายร้อยปีมาแล้วมนุษย์ที่นับถือสองศาสนาใหญ่คือคริสต์กับอิสลามทำสงครามห้ำหั่นกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องกลายเป็นสงครามใหญ่ชื่อว่า “ครูเสด” (Crusade) ระหว่าง ค.ศ.1095-1291 ยาวนานเกือบสองร้อยปี จบลงตรงช่วงต้นอาณาจักรสุโขทัยพอดิบพอดี สงครามครูเสดเกิดหลายครั้งทว่าจับรวบเป็นสงครามใหญ่ได้เก้าครั้งเป็นไปเพื่อแย่งนครเยรูซาเล็มที่อยู่ในแผ่นดินปาเลสไตน์เวลานี้ รบกันมานานกระทั่งเกิดตำนานและวีรบุรุษขึ้นจำนวนไม่น้อย โดดเด่นที่สุดมีอยู่สองคนคือ พระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ กษัตริย์อังกฤษของฝ่ายครูเสด กับสุลต่านซอลาฮุดดิน อัลอายูบี ฝ่ายมุสลิม ซึ่งสับประยุทธ์กันในมหาสงครามครั้งที่สามระหว่างปี ค.ศ.1189-1192 ชาวยุโรปเรียกสุลต่านซอลาฮุดดินว่า “ซาลาดิน” (Saladin) เป็นมหาบุรุษที่ได้รับการยกย่องจากทั้งสองฝ่าย ใครอยากดื่มด่ำกับความเป็นซอลาฮุดดินขอแนะนำให้ไปหาภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเก่าเรื่อง Kingdom of Heaven มาดู Ghassan Massoud ดาราใหญ่ชาวซีเรียรับบทเป็นซอลาฮุดดิน หากได้เห็นแทบทุกคนต่างบอกว่าดาราคนนี้บุคลิกลักษณะเหมาะกับความเป็นซอลาฮุดดีนอย่างที่สุด

ซอลาฮุดดินเป็นชาวเคิร์ด เกิดใน ค.ศ.1138 ที่เมืองทีกริต ปัจจุบันอยู่ในประเทศอิรัก ซอลาฮุดดินเป็นคนสนใจใฝ่รู้ด้านศาสนาอิสลามกระทั่งกลายเป็นคนเคร่งศาสนาทว่ากลายเป็นนักการทหารไปจนได้ เนื่องจากมีลุงเป็นแม่ทัพและติดตามลุงไปรบโดยตลอดทั่วดินแดนตะวันออกกลาง ในที่สุดได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองอิยิปต์ ก่อนหน้านั้น สงครามครูเสดได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่ ค.ศ.1099 ผลัดกันยึดกรุงเยรูซาเล็มกันมาตลอด ซอลาฮุดดินรู้ว่าหากจะรบกับกองทัพยุโรปขนาดใหญ่อย่างครูเสดจำเป็นต้องรวบรวมกองทัพมุสลิมเข้าด้วยกัน หาไม่แล้วไม่มีทางชนะ กองทัพครูเสดเวลานั้นฉลาดพอที่จะศึกษาความขัดแย้งระหว่างมุสลิมสุนหนี่กับชีอะฮฺ จึงแต่งตั้งแม่ทัพชีอะฮฺให้เป็นผู้ปกครองในหลายเมือง ดังนั้นเมื่อได้อำนาจในอิยิปต์ ซอลาฮุดดินจึงนำทัพย้อนกลับไปที่ดามัสกัสซึ่งเวลานั้นเป็นที่ประทับของสุลต่าน เพื่อหาทางเกลี้ยกล่อมบรรดาแม่ทัพนายกองมุสลิมที่ยังคงแตกแยกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย ปะเหมาะเวลานั้นสุลต่านองค์เดิมสวรรคต ซอลาฮุดดินซึ่งมีอำนาจอยู่เต็มมือจึงได้รับการสถาปนาให้เป็นสุลต่านใน ค.ศ.1175

การแสดงตัวอย่างเปิดเผยของซอลาฮุดดินสร้างความไม่สบายใจให้กับกองทัพครูเสดที่ยึดครองเยรูซาเล็มอยู่ในเวลานั้น เกมแมวไล่จับหนูจึงเริ่มต้นขึ้น ครูเสดส่งกองทัพไล่ล่าซอลาฮุดดินในหลายพื้นที่เกิดสงครามขึ้นหลายแห่งทั่วดินแดนตะวันออกกลาง ซอลาฮุดดินต้องทำสงครามกับทั้งครูเสดและกับมุสลิมด้วยกัน ความฉลาดเฉลียวในการรบทำให้สามารถรวบรวมกองกำลังมุสลิมกลุ่มต่างๆเข้าด้วยกันได้สำเร็จนี่เองทำให้นักประวัติศาสตร์พากันยกย่องซอลาฮุดดินว่าเป็นทั้งนักการทหารและนักการเมืองที่เก่งกาจ สามารถประสานประโยชน์ของมุสลิมทุกกลุ่มที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้วให้เข้าด้วยกันได้ คนลักษณะนี้เองที่โลกมุสลิมจนถึงเวลานี้พยายามเสาะหาอยู่เพื่อประสานโลกมุสลิมที่แตกออกเป็นเสี่ยงจากนโยบายแบ่งแยกและปกครองของโลกตะวันตกให้เข้าด้วยกัน สงครามครั้งใหม่ที่กำลังฮึ่มๆอยู่ในอ่าวเปอร์เซียเวลานี้ โลกมุสลิมถูกโลกตะวันตกแบ่งออกอย่างชาญฉลาดเป็นฝ่ายอาหรับกับฝ่ายอิหร่านดูคลับคล้ายสงครามครูเสดยุคซอลาฮุดดินเข้าไปทุกที เพียงยังไม่ประกาศว่าเป็นสงครามครูเสดครั้งใหม่เท่านั้น