พลังละมุน (Soft Power) หัวใจความสำเร็จของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) และอิสลาม

ต้องยอมรับกันว่าความสำเร็จของอิสลามที่ทำให้มีผู้ศรัทธามากมายถึงสองพันล้านคนในปัจจุบัน ทั้งมีแนวโน้มที่จะเป็นศาสนาที่มีผู้ยึดมั่นมากที่สุดในโลกในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า มาจากบุคคลหนึ่งที่นักเขียนอเมริกันนามอุโฆษอย่างไมเคิล เอช ฮาร์ท (Michael H. Hart) ยกย่องว่าคือบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์โลก บุคคลท่านนั้นคือท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ศ็อลฯ) นักสังคมศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ยอมรับว่ามิใช่ด้วยอาวุธหรือพลังทางทหารหรือกองทัพที่นำอิสลามมาถึงระดับที่เป็นอยู่ ทว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่า “พลังละมุน” หรือ soft power ซึ่งปรากฏอยู่ในบุคลิกภาพของท่านนบี พลังละมุนเหล่านี้มีส่วนอย่างสำคัญที่ทำให้สิ่งที่ท่านเผยแผ่เมื่อ 1,400 ปีที่ผ่านมา ดำรงอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ได้รับความเชื่อถือมากมายจนกระทั่งทุกวันนี้พลังละมุนที่แฝงอยู่ในบุคลิกภาพของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) มีหลายประการซึ่งนักประวัติศาสตร์ได้รวบรวมไว้ บุคลิกภาพเหล่านี้มีส่วนทำให้ท่านนบีทรงอิทธิพลต่อความคิดอ่านของผู้คนนำไปสู่ความสำเร็จของการเผยแผ่อิสลามที่ประทานลงมาจากอัลลอฮฺ ศุบฮานะฮูวะตะอาลา (ศุบฮาฯ) ตัวอย่างพลังละมุน เป็นต้นว่า ความเป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพที่น่าดึงดูดใจ ท่านนบีแม้ไม่รู้หนังสือ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ทว่าได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มากด้วยความสามารถพิเศษ มีบุคลิกภาพที่ดึงดูดใจต่อผู้พบเห็น กระทั่งมีผู้ติดตามมากมาย กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนเกิดความเชื่อมั่นในคำสอน กระทั่งเกิดความจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ (ศุบฮาฯ) ซึ่งเป็นสิ่งที่ท่านนบีเน้นย้ำเสมอมามีอีกหลายบุคลิกภาพที่ได้รับการยอมรับ เป็นต้นว่า การเป็นผู้ทรงคุณธรรมส่งผลให้คำสอนได้รับความเชื่อถือ การเป็นบุคคลที่มีทักษะสูงในการพูด เป็นนักสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ท่านได้สร้างสุนทรพจน์มากมายที่ทรงพลัง ความเป็นบุคคลที่เห็นอกเห็นใจและเอาใจใส่ต่อผู้อื่นเป็นผลให้ท่านนบีเป็นที่รักของผู้คน การไม่แบ่งแยก ให้ความสำคัญกับความเป็นเอกภาพของชุมชนโดยไม่คำนึงถึงสถานะทางสังคมหรือเศรษฐกิจ เป็นผลให้คนในชุมชนแม้มิใช่มุสลิมเกิดความรู้สึกว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนอีกสิ่งหนึ่งที่ท่านนบีแสดงให้เห็นว่าท่านมีความโดดเด่นคือทักษะทางการทูตและการเจรจา หลายครั้งท่านนบีแก้ไขข้อขัดแย้งโดยสร้างพันธมิตรไปพร้อมกันมาจากทักษะทางการทูตของท่าน สิ่งนี้ส่งผลให้ท่านได้รับการยอมรับสูงว่าเป็นผู้นำและผู้ปกครองที่ฉลาด หาตัวจับยาก พลังละมุนอีกส่วนหนึ่งมาจากการเป็นผู้ที่มีความอดทนและความยืดหยุ่นสูงที่กลายเป็นตัวอย่างให้กับผู้ติดตามยามเผชิญกับวิกฤติ อุปสรรคขวากหนาม และความยากลำบาก ให้ดำเนินการตามแบบของท่านอีกหนึ่งพลังละมุนของท่านนบีคือความสามารถในการปรับตัว ท่านนบีปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วได้อย่างดี สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นด้วยความฉับไว ท่านไม่เป็นคนดื้อรั้น ไม่ฟังคน การอพยพหรือฮิจเราะฮฺของท่านภายหลังกลับจากการเผชิญปัญหาที่เมืองฏออีฟ แสดงชัดเจนว่าท่านนบียืดหยุ่นต่อการปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างไร ท่านเลือกความปลอดภัยของชุมชนมากกว่าความปลอดภัยของตนเองพลังละมุนเหล่านี้ผสานเข้ากับแนวทางอิสลาม กลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จให้อิสลามทั้งในยุคสมัยของท่านนบีและยุคสมัยต่อมากระทั่งลากยาวมาจนถึงทุกวันนี้#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #นบีมุอัมมัดพลังละมุนแห่งอิสลาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *