ปัญหาของการนอนน้อยนอนมาก

เชื่อกันมาตลอดว่าการนอนเพื่อการมีสุขภาพดีนั้นต้องใช้เวลานาน 6-8 ชั่วโมงต่อคืนไม่ควรต่ำกว่านั้น จึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมาว่าบางคนนอนเพียง 4-6 ชั่วโมง แต่ไม่เห็นมีปัญหาอะไร อันที่จริงคนเราควรนอนนานเท่าไหร่กันแน่ เรื่องนี้มีคนให้คำตอบออกมาแล้ว เป็นทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก (UCSF) ตีพิมพ์ในวารสาร iScience เดือนมีนาคม ค.ศ.2022 ในรายงานกล่าวว่าการนอนเป็นการทำงานของยีนซึ่งมีหลายตัว ทำงานกันอย่างซับซ้อน สรุปเอาเป็นว่าการนอนนั้นไม่ต่างจากส่วนสูงของร่างกายที่ควบคุมโดยยีน สูงมากสูงน้อยไม่มีผลต่อสุขภาพมากนัก การนอนก็เช่นกัน นอนมากนอนน้อยขึ้นกับยีนว่ากันอย่างนั้นทีมวิจัยทำการศึกษาในอาสาสมัครที่มีประวัติครอบครัวเป็นกลุ่มที่นอนน้อย คนกลุ่มนี้มียีนนอนน้อยโดยธรรมชาติ ที่สืบทอดกันในครอบครัวเรียกว่า Familial Natural Short Sleep (FNSS) ในงานการศึกษาที่ทำต่อเนื่องกันมาหลายปีพบว่ามียีนอย่างน้อยที่สุด 5 ตัวที่ทำหน้าที่ควบคุมการนอน แม้นอนน้อยแต่เป็นการนอนที่มีประสิทธิภาพโดยนอนเพียง 4-6 ชั่วโมง ไม่พบปัญหาทางสุขภาพแต่อย่างใดโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาทางด้านประสาทและสมองทีมวิจัยเชื่อว่ายังมียีนอื่นอีกมากที่เข้ามาร่วมทำหน้าที่ ไม่ใช่แค่ 5 ตัว การนอนหลับที่มีประสิทธิภาพสามารถใช้เป็นเกราะในการป้องกันโรคทางระบบประสาทได้ การอดนอนเป็นตัวเร่งการเสื่อมของระบบประสาท ยีนกลุ่ม FNSS นี้เองที่เข้ามาควบคุมการทำหน้าที่ของสมองช่วยให้การนอนหลับชนิดหลับลึกเกิดขึ้นได้ในเวลาอันสั้น กล่าวกันอีกนัยหนึ่งคือการนอนหลับสนิทอย่างมีประสิทธิภาพให้คุณค่ามากกว่าการอดนอนหรือแม้กระทั่งนอนนานแต่ขาดประสิทธิภาพ ระยะเวลาของการนอนจึงสำคัญน้อยกว่าประสิทธิภาพของการหลับทีมวิจัยทำการทดลองต่อในหนูทดลองพบว่าหากทำให้การนอนมีประสิทธภาพ หนูจะพัฒนาการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ช้ากว่าหนูที่มีปัญหาการนอน ทีมวิจัยมั่นใจว่าสักวันหนึ่งความรู้ทางวิชาการจะก้าวหน้าถึงระดับที่ทำให้นักวิจัยเข้าใจการทำงานของกลุ่มยีน FNSS ได้ ถึงวันนั้นนักวิจัยจะเข้าใจกลไกที่ซับซ้อนของการนอนนำไปสู่การพัฒนาเทคนิควิธีการตลอดจนการพัฒนายาหรือผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ในการรักษาโรคนอนไม่หลับ (Insomnia) ที่ผู้สูงอายุเป็นกันมากได้ สำหรับวันนี้ใครเป็นโรคนอนไม่หลับ รอผลการวิจัยไปพลางๆก่อนก็แล้วกัน #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #โรคนอนไม่หลับ, #นอนน้อย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *