ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม กับความหลังยามยากเมื่อครั้งเยี่ยมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จฬ. ครั้งแรก

วันวาน ศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ผมได้รับเชิญจากมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย คลองตัน ให้ร่วมต้อนรับ ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียและภริยาที่เดินทางมาละหมาดญุมอัตที่มัสยิดของมูลนิธิ คนร่วมต้อนรับหนาแน่น ในห้องบรรยายที่เรียกกันว่าห้องกรงนก ผมได้รับการแนะนำตัวจึงพูดคุยกับนายกมาเลเซียสั้นๆ ท่านจำผมได้ดี บอกทันทีว่าเคยไปเยี่ยมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ศวฮ.) เมื่อหลายปีมาแล้ว ทำเอาผมแปลกใจ ชวนให้ย้อนรำลึกถึงเหตุการณ์ที่มีโอกาสพบปะรวมถึงร่วมรับรู้เรื่องราวของนายกมาเลเซียท่านนี้ อยากเอามาเล่าให้พวกเราฟังสักหน่อยผมรับรู้เรื่องราวของดาโต๊ะ สรึ อันวาร์ มาเนิ่นนานหลายสิบปี ได้ฟังครั้งแรกเมื่อครั้งเดินทางไปปีนัง มาเลเซีย เดือนสิงหาคม 2537 ร่วมกับทีมสมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.) มีนักกิจกรรมมุสลิมร่วมเดินทางไปหลายคน โดย ยมท.อยากให้ผมร่วมงานคุ้มครองผู้บริโภคมุสลิมจึงพาผมไปเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ USM ปีนัง ขับรถจากยะลาเข้าไปถึงปีนัง เยี่ยมชมแล้วจึงรู้ว่าทาง USM ไม่มีห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล กลายเป็นแรงผลักดันให้ผมกลับมาเปิดห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ฮาลาลในคณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงต้นปี 2538 และภายหลังได้รับการประกาศยกย่องว่าคือหน่วยงานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลแห่งแรกในโลก ในงาน World Halal Forum เมื่อครั้งผมไปรับรางวัลจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พ.ศ.2549 ที่ USM ปีนัง 2537 ทางทีม ยมท.ร่วมประชุมกับนักกิจกรรมสังคมนาม ABIM ของมาเลเซีย กลุ่มนี้เป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเคยมีประธานชื่อดังคืออันวาร์ อิบราฮิม เวลานั้นอันวาร์ก้าวขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย คาดหมายกันด้วยว่าจะเป็นนายกมาเลเซียในอนาคตอันใกล้ อันวาร์ช่วงเป็นนักศึกษาสนิทสนมกับ ยมท.และนักกิจกรรมสังคมมุสลิมไทยหลายกลุ่ม ความที่ผมไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มนั้น จึงได้แต่รับฟัง จดจำได้ดีว่าอาจารย์มหาวิทยาลัย USM กับ ยมท.พูดคุยกันเรื่องอันวาร์ด้วยความชื่นชม กลับจากปีนังครั้งนั้น ผมจึงมีชื่ออันวาร์ติดในความทรงจำมาด้วย เมื่อเข้าไปมาเลเซียอีกหลายครั้ง เรื่องราวความเป็นฮีโร่ของอันวาร์สำหรับคนรุ่นใหม่มาเลเซียพอกพูนเข้าไปสะสมในความรับรู้ของผม กระทั่งหลังเหตุการณ์วิกฤติต้มยำกุ้ง พ.ศ.2540 นั่นแหละ อันวาร์ อิบราฮิม จากดาวรุ่งพุ่งแรงก็กลับกลายเป็นดาวร่วงถูกถอดจากรองนายกรัฐมนตรี เวียนเข้าเวียนออกจากคุกการเมืองมาเลเซียนับแต่นั้นเมษายน 2552 อันวาร์ อิบราฮิม หลังออกจากคุก ได้รับเชิญมาบรรยายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทีมงานซึ่งก็คือนักกิจกรรมมุสลิมหลายคนรวมถึงคุณศราวุธ ศรีวรรณยศ (ปัจจุบันคืออิหม่ามมัสยิดต้นสน) พามาเยี่ยม ศวฮ. ผมจึงได้พบได้พูดคุยกับอันวาร์ อิบราฮิม เป็นครั้งแรก ผู้ที่ร่วมเดินทางมาด้วยคือคุณสุทธิชัย หยุ่น คุณไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ จดจำได้ดีว่าอันวาร์ อิบราฮิม ครั้งนั้นออกจากคุกไม่นานนัก ยังมีร่องรอยการถูกทรมาน กระทั่งแทบพิการ เดินเกือบไม่ได้ ต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว ผมรับทราบว่าอันวาร์ถูกตีด้วยไม้ตะบองที่กระดูกสันหลังบริเวณเอว เป็นผลให้เวลานั้นเดินไม่สะดวก เมื่อต้องเดินขึ้นบันไดไปชมเครื่องมือวิทยาศาสตร์บนชั้นสองของ ศวฮ.อาคารเก่าในคณะสหเวชศาสตร์ อันวาร์ค่อยๆพยุงตัวก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น อาจเป็นเพราะภาพจำเช่นนั้นจึงทำให้ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม จดจำผมและ ศวฮ.ได้ดีนายกรัฐมนตรีท่านนี้ต้องยกให้เป็นหนึ่งในรัฐบุรุษทางการเมืองมาเลเซีย เป็นคล้ายแมวเก้าชีวิต ที่ทั้งรุ่งโรจน์ ร่วงโรย มีทั้งความหวัง ดับหวัง ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ปลาย พ.ศ.2561 กลับมาเป็น สส.แล้ว นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเวลานั้นคือ ตน ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด กล่าวว่าอันวาร์จะขึ้นมาเป็นนายกแทนที่ตนในอีกไม่นาน อันวาร์เวลานั้นเดินทางมาบรรยายที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผมมีโอกาสร่วมต้อนรับ นักข่าวถามท่านว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ท่านรู้สึกอย่างไร ดูเหมือนท่านจะถามกลับว่าเชื่อกันอย่างนั้นจริงๆหรือ ซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้น ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียครั้งนี้ได้ด้วยแรงขับของตนเอง ไม่ใช่ด้วยแรงเกื้อหนุนของนายกรัฐมนตรีคนไหน หากจะมีพลังผลักดันก็น่าจะเป็นพลังจากแมวเก้าชีวิตนั่นแหละ สำหรับพวกเรามุสลิมเชื่ออีกอย่างว่าเป็นหิดายะฮฺ พระประสงค์ของอัลลอฮฺตะอาลาที่ทำให้ดาโต๊ะ สรี อันวาร์ อิบราฮิม ก้าวมาถึงฝั่งฝันการเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้ในวันนี้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน,