ชนชาวเติร์กกับพลังและโมเมนตัมที่ขับเคลื่อนประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 45

หลังความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิอุสมานียะฮฺต่อจักรวรรดิทิมูริดใน ค.ศ.1402 โอรสสี่องค์ของบาเยซิดที่ 1 แข่งกันจัดตั้งอาณาจักรขึ้นสามแห่ง สุลัยมาน เจเลบี ยึดพื้นที่ในยุโรปตั้งอาณาจักรรูเมเลียขึ้นปกครองได้เกือบ 9 ปีจึงถูกอนุชาคือมูซา เจเลบี ยึดอำนาจปกครองต่อได้สองปี ขณะที่ใน ค.ศ.1403 โอรสอีกองค์หนึ่งคืออิซา เจเลบี สร้างอาณาจักรอะนาโตเลียตะวันตกขึ้นพร้อมๆกับโอรสองค์สุดท้องคือเมฮฺเม็ด เจเลบีที่จัดตั้งอาณาจักรอะนาโตเลียตะวันออก อุสมานียะฮฺแตกออกเป็นสามเสี่ยงกับอีกหลายเสี่ยงจากฝีมือของบรรดาเบลิกส์ทั้งหลาย เจเลบีแปลว่าสุภาพบุรุษที่ยังไม่นับเป็นเจ้าชาย เนื่องจากเวลานั้นสถานภาพความเป็นสุลตานจบสิ้นลงแล้ว ใน ค.ศ.1405 เมฮฺเมดบุกยึดอะนาโตเลียตะวันตกไว้ได้ ถึง ค.ศ.1413 จึงยึดรูเมเลียคืนมาก่อนก้าวขึ้นเป็นสุลต่านเมฮฺเมดที่ 1 (ค.ศ.1413-1420) สิ้นยุคสมัยของความแตกแยกและไร้ผู้ปกครอง (Interregnum) ทว่าปัญหายังไม่จบ รัฐยุโรปในบุลกาเรียและเซอร์เบียพากันแข็งเมืองทำให้สุลต่านเมฮฺเมดที่ 1 ต้องใช้กำลังดึงกลับมา เข้า ค.ศ.1420 เปลี่ยนรัชกาลเป็นมูรอดที่ 2 (ค.ศ.1421-1451) ทรงรวบรวมบรรดาเบลิกส์ที่แยกตัวออกไปจากนั้นทรงกลับเข้าไปจัดระเบียบในยุโรปพร้อมกดดันกรุงคอนสแตนติโนเปิลกระทั่งยอมส่งบรรณาการให้กับจักรวรรดิอุสมานียะฮฺ ส่วนพื้นที่อะนาโตเลียตะวันออกยังคงมีรัฐเติร์กเล็กๆที่จักรวรรดิทิมูริดทิ้งไว้สองแห่ง สุลต่านมูรอดที่ 2 ทรงปล่อยรัฐเหล่านั้นไว้เพราะไม่ต้องการทำศึกกับจักรวรรดิทิมูริดอีกครั้ง ในรัชกาลมูรอดที่ 2 ความสงบยังมาไม่ถึง เกิดความขัดแย้งกระทั่งเป็นสงครามกับเวนิชใน ค.ศ.1423 ลากยาวไปจนถึง ค.ศ.1430 ต่อด้วยปัญหากับสองสามรัฐในบอลข่าน มูรอดที่ 2 ทรงตัดสินใจพัฒนากองทัพเรือเพื่อต้านทัพเรือเวนิช ทว่ายังมีปัญหากับเบลิกส์เติร์กที่พากันกระด้างกระเดื่อง มูรอดที่ 2 จึงทรงปรับปรุงการรับทหารเข้าประจำการใหม่ เกิดเป็นระบบภาษีเลือด (devşirme) ที่รับเอาเด็กชายจากครอบครัวชาวคริสต์ออร์โธดอกในบอลข่านมาฝึกเป็นทหารแทนการจ่ายภาษีปกติ เรียกทหารกลุ่มนี้ว่า “จานิสซารี” (Janissary) ที่กลายเป็นทหารองครักษ์ข้างกายสุลต่านนับจากนั้นมาโดยตลอด เหน็ดเหนื่อยกับปัญหามากนัก ถึง ค.ศ.1444 สุลต่านมูรอดที่ 2 จึงทรงสละราชย์สมบัติมอบให้โอรสวัย 12 ปีนามเมฮฺเมดที่ 2 (Mehmed II) ดูแลแทน เมื่อทรงสละราชย์สมบัติทันทีในปีนั้นเกิดปัญหาขึ้นโดยสันตะปาปายูจีนที่ 4 (Pope Eugene IV) ทรงประกาศสงครามครูเสด สุลต่านพ่อลูกต้องร่วมกันทำศึกกับทัพหลายรัฐในบอลข่านในศึกแห่งวารนา (Battle of Varna) บุลกาเรีย กระทั่งได้รับชัยชนะ ผ่านไปสองปี มูรอดที่ 2 จึงทรงทวงคืนบัลลังก์และปกครองต่อกระทั่งสิ้นพระชนม์ใน ค.ศ.1451 เมฮฺเมดที่ 2 หวนคืนสู่บัลลังก์ พระองค์ทรงพิสูจน์ศักยภาพโดยบุกยึดกรุงคอนสแตนติโนเปิลปิดฉากจักรวรรดิไบแซนไทน์ใน ค.ศ.1453 สิ้นสุดความสับสนอลหม่าน จักรวรรดิอุสมานียะฮฺจึงเริ่มต้นได้อีกครั้ง มองในมุมบวก สภาพล้มลุกคลุกคลานนาน 51 ปีเป็นเสมือนการเขย่าขวดที่ทำให้อุสมานียะฮฺมั่นคงขึ้นกระทั่งยืนหยัดต่อไปได้อีกนานเกือบ 500 ปี ช่างคุ้มค่าว่ากันอย่างนั้น #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *