ชาวเติร์กไม่ต่างจากชนชาติอื่นนั่นคือชอบเรื่องราวความลึกลับ ตัวอย่างที่เห็นชัดคือความฝันของออสมันที่กล่าวถึงในตอนที่แล้วซึ่งสร้างแรงบันดาลใจในหมู่ชนชาวเติร์กได้มาก เรื่องจริงเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ เกิดขึ้นจริงหรือเปล่าไม่มีใครทราบที่รู้คือสร้างพลังในสังคมได้สูง ในบันทึกหนึ่งกล่าวว่าความฝันนี้เกิดขึ้นประมาณ ค.ศ.1277 เวลานั้นออสมันอายุ 19 ปี บิดาคือเออร์ทูรุลพาทั้งครอบครัวเดินทางไปต่างเมืองเพื่อเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าโดยพักค้างแรมที่บ้านเพื่อนหลังนั้น ออสมันพักอยู่ห้องหนึ่ง ขณะเตรียมตัวนอน เขาสังเกตเห็นคัมภีร์อัลกุรอ่านแขวนอยู่บนผนัง ออสมันมีความเคารพคัมภีร์จึงทำสมาธิเฝ้ามองคัมภีร์อยู่ทั้งคืน กระทั่งใกล้รุ่งจึงงีบหลับ ความฝันถึงดวงรัศมีในอกที่แผ่ออกเป็นร่มไม้ใหญ่กลายเป็นฝันของออสมันอันลือลั่นเกิดขึ้นในเวลานี้เองออสมันเป็นคนสูง ผิวคล้ำกว่าพี่น้อง ตาตี่แบบเติร์ก-มองโกล เชี่ยวชาญการขี่ม้าและใช้อาวุธ สร้างบารมีจากความเด็ดขาดของตนเองหลายครั้งกระทั่งได้รับการยอมรับจากบิดาให้เป็นผู้นำเผ่าคายี ออสมันรู้ว่าชนเผ่าเติร์กฝันที่จะสร้างชาติของตนเอง หากต้องการให้เกิดขึ้นจะต้องรวบรวมชนเผ่าทั้งหมด เผ่าคายีนั้นเล็กเกินไป โดยต้องหยุดการรบรากันระหว่างชนเติร์ก ทั้งสานไมตรีกับชนกลุ่มอื่นที่ประสงค์สร้างสังคมร่วมกัน อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์ยอมรับว่าปัจจัยสำคัญในความสำเร็จอยู่ที่ภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งออสมันฉลาดในการนำมาใช้การคุกคามของมองโกลอยู่ทางทิศตะวันออกของอะนาโตเลีย ขณะที่ที่มั่นของออสมันไกลไปทางตะวันตกชิดไปทางพรมแดนไบแซนไทน์ที่เวลานั้นอ่อนล้าลงมาก ออสมันเสนอการรุกเข้าไปในพื้นที่ไบแซนไทน์รวมถึงรัฐอิสระของนักรบครูเสดในแถบนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐที่เคยก่อปัญหากับชนเติร์ก ดุนดาร์ (Dundar) อาของออสมันวัย 70 ปีคัดค้านรุนแรงจนเกิดการปะทะกับออสมันกระทั่งเสียชีวิตกลางที่ประชุม เรื่องนี้แม้เป็นผลเสียทว่าแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นของออสมัน เมื่อทำการรบได้ชัยชนะต่อป้อมค่ายของนักรบครูเสด นักรบเติร์กทั่วอะนาโตเลียเกิดศรัทธาพากันหลั่งไหลเข้าไปสมทบกับออสมัน หลายเผ่าที่เคยระร้าระรังเปลี่ยนใจรวมเผ่ากับคายี ส่งผลให้อาณาจักรขยายใหญ่ขึ้นกระทั่งเกิดความพร้อม ใน ค.ศ.1299 นั้นเองที่ออสมันประกาศสร้างรัฐออตโตมันเบลิก (Ottoman beylik) นำไปสู่การจัดทำเหรียญกษาปณ์ของออตโตมันในเวลาต่อมาอีกความปรารถนาหนึ่งของออสมันคือเปลี่ยนสภาพชนเติร์กจากชนเร่ร่อนเป็นคนเมือง แม้ชนเติร์กในยุคเซลจุกเคยอยู่เมืองมาแล้วทว่าในสมัยเออร์ทูรุล ชนเติร์กยังอาศัยในกระโจมอย่างชนเร่ร่อน (Nomad) ที่พร้อมโยกย้ายไปกับปศุสัตว์ เมืองที่ออสมันเติบโตขึ้นมาคือ “โซอุต” (Sogut) ใกล้ทะเลมาร์มารา (Marmara sea) แม้มีบ้านเรือนของชนกรีกและอาร์มีเนียอยู่มาก ชนเติร์กยังรักที่จะอาศัยในกระโจม ออสมันในวัยใกล้ 70 ปีแจ้งความปรารถนานี้ให้ออร์ฮัน (Orhan) บุตรชายทราบ เมื่อออร์ฮันยึดเมืองเบอร์ซา (Bursa) ได้จากไบแซนไทน์ใน ค.ศ.1326 อันเป็นปีที่ออสมานเสียชีวิต ออร์ฮันขึ้นเป็นสุลต่านทำการย้ายเมืองหลวงจากโซอุตไปยังเบอร์ซา ชนเติร์กจึงสร้างบ้านแปลงเมืองพร้อมกับการสร้างความเป็นชนอารยะตามที่ออสมันปรารถนา ทุกอย่างเริ่มต้นที่เมืองเบอร์ซาทางตะวันตกของอะนาโตเลียนี้เอง #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน
