ชนชาวเติร์กกับพลังและโมเมนตัมที่ขับเคลื่อนประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 20

ว่าเรื่องราวในประวัติศาสตร์ของโลกอาหรับและยุโรปสับสนอลหม่านแล้วยังไม่เท่าครึ่งของเอเชียกลางที่มีอิทธิพลของทั้งเปอร์เซีย มองโกล จีน อาหรับ กรีก เติร์ก เติร์ก-มองโกล เติร์ก-เปอร์เซีย แถมด้วยอาณาจักรเล็กๆน้อยๆปะปนกันเต็มไปหมด ย้อนไปในประวัติศาสตร์นับจากก่อนคริสตกาลไปจนถึงศตวรรษที่ 15 เฉพาะชนเติร์กสร้างอาณาจักรมากมายเวียนกันขึ้นมาในพื้นที่ชนิดต่างกรรมต่างวาระ เติร์กแท้เองมีทั้งสมาพันธ์กิปชัก รัฐข่านเตอร์กิก เตอร์เกช อุยกูร์ คาร์ลุกยาบู อุสมานียะฮฺ ขณะที่อาณาจักรเติร์ก-เปอร์เซีย มีเซลจุก ฆาสนาวิด รัฐสุลต่านแห่งรุม ควารัสเมียน อัฆโฆยุนลู อาณาจักรเติร์ก-มองโกล มีรัฐข่านชากาไต โกลเด้นฮอร์ด ซูฟิด ทิมูริด ส่วนเติร์ก-จีน มีรัฐเว่ย ถังยุคหลัง จิ๋นยุคหลัง ฮั่นยุคหลัง และอีกสารพัดรัฐเติร์กจดจำกันได้ไม่หมดเป็นเช่นเดียวกับอาหรับอาระเบียที่เริ่มจากความเป็นเบดูอิน ขณะที่เติร์กเริ่มจากการเป็นชนเร่ร่อน (Nomad) ทั้งสองกลุ่มต่างมีอารยธรรมต่ำกว่าเมโสโปเตเมีย เปอร์เซีย โดยอาหรับเบดูอินต่อยอดอารยธรรมรอบพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วกระทั่งสร้างจักรวรรดิอิสลามอาหรับกลายเป็นผู้นำทางด้านศิลปวิทยาการในยุคหนึ่ง เติร์กจากเอเชียกลางเองไม่ต่างกัน ซึมซับอารยธรรมรอบพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วกระทั่งสร้างจักรวรรดิอิสลามเติร์กก้าวขึ้นทดแทนจักรวรรดิอิสลามอาหรับได้ทั้งเซลจุกและอุสมานียะฮฺ แม้มีกลุ่มชนอย่างมองโกลและเติร์ก-มองโกลสร้างจักรวรรดิใหญ่โตอย่างมองโกลและ #ทิมูริด (#Timurid) ขึ้นทว่าเอาแต่ศึกสงครามสร้างจักรวรรดิกระทั่งสร้างความมั่นคงของรัฐเป็นชิ้นเป็นอันขึ้นไม่ได้ ผิดกับชนเติร์กอย่างอุสมานียะฮฺที่สร้างจักรวรรดิพรั่งพร้อมด้วยอารยธรรมลากยาวไปจนกระทั่งถึงศตวรรษที่ 20 ในโลกยุคใหม่ นี่เองที่เป็นพลังและโมเมนตัมของชาวเติร์ก อย่างไรก็ตาม การก้าวขึ้นมาสู่อำนาจทางการเมืองของชนเติร์กทดแทนอำนาจของอาหรับและอาหรับ-เปอร์เซียในโลกอิสลามโดยเฉพาะอย่างยิ่งชัยชนะที่มีต่ออาณาจักรไบแซนไทน์ในอะนาโตเลียได้สร้างความขัดแย้งบานปลายกระทั่งเกิดการปะทะกับชาวคริสต์จากยุโรปที่เดินทางมาแสวงบุญในเยรูซาเล็มและปาเลสไตน์เป็นชนวนสร้างความขัดแย้งครั้งสำคัญระหว่างชาวคริสต์และมุสลิมนั่นคือ #สงครามครูเสด (#Crusade war) ชาวคริสต์หลายอาณาจักรในยุโรปทำสงครามกับมุสลิมหลายอาณาจักรในตะวันออกกลาง เป็นสงครามยืดเยื้อยาวนานกว่าสองศตวรรษสร้างสงครามใหญ่ถึง 9 ครั้งไม่นับรวมสงครามย่อยอีกหลายครั้งจากปลายศตวรรษที่ 11 ไปจนสิ้นสุดเอาตอนปลายศตวรรษที่ 13 สงครามนี้แม้เริ่มโดยนักรบครูเสดซึ่งเป็นชาวคริสต์จากยุโรป แต่ชนวนเริ่มต้นมาจากการก้าวขึ้นสู่อำนาจของชนชาวเติร์กในคาบสมุทรอะนาโตเลียชาวคริสต์ที่เข้าสงครามครูเสดมีแทบทุกอาณาจักรในยุโรป ขณะที่มุสลิมในตะวันออกกลางที่เข้าสงครามมีทั้งอาหรับ เคิร์ด เติร์กทั้งเติร์กเซลจุก เติร์กอะนาโตเลีย และเติร์กมัมลุกที่เข้ายึดครองอียิปต์ต่อจากอาหรับเคิร์ด นอกจากนี้ยังมีทหารเติร์กรับจ้างจากรัฐควารัสเมียนในเอเชียกลางที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในสงครามครูเสดยุคหลัง ดูคล้ายเป็นการส่งไม้ต่อกันระหว่างมุสลิมเชื้อสายต่างๆเพื่อทำสงครามปกป้องแผ่นดิน โดยมีชนเติร์กหมุนเวียนกันเข้ามาเป็นแกนกลางในสงครามครูเสดแทบทุกครั้ง #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *