คำเตือนจากรายงานวิจัยใหม่

ไม่อยากขายความตื่นตระหนกแต่เตือนกันเพื่อสร้างความตระหนัก ข่าวไม่ดีนักประจำสัปดาห์นี้คือรายงานวิจัยพบว่า เชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ซึ่งก่อโรคโควิด-19 สามารถทำลายภูมิคุ้มกันร่างกายได้ โดยทำลาย T cells ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวตัวสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน เรื่องนี้สำคัญ หากปล่อยให้ติดเชื้อ SARS-CoV-2 จะเสี่ยงต่อการติดเชื้ออื่นๆตามมา เรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลให้มีรายงานการอุบัติใหม่ของโรคเก่าที่หายไปนานแล้วในบางพื้นที่ทื่มีการระบาดของโควิด-19

อีกเรื่องหนึ่งเป็นรายงานมาจากจีน พบว่าเวลานี้ผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ ไม่จาม ไม่ไอ ไม่มีไข้ พบมากถึง 1,700 ราย หมายความว่าคนที่เราเข้าใจว่าปกติดีนั้น อาจเป็นผู้แพร่เชื้อ หลังจากนั้นเขาป่วย โดยทำให้เราป่วยตามเขาไปด้วย

การป้องกันตนเองมิให้ติดเชื้อจึงเป็นเรื่องสำคัญ ช่วงเวลานี้ดูแลตนเองอย่าป่วย เพราะพื้นที่ในโรงพยาบาลถูกกันไว้ให้โควิด-19 แทบหมดแล้ว อีกทั้งโรงพยาบาลกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดโควิด-19 หากเลี่ยงเข้าโรงพยาบาลย่อมดีที่สุด เหตุนี้การเว้นระยะห่างจากผู้อื่น 2 เมตร (physical distancing) จึงสำคัญแม้กับคนที่เรารู้จัก การสวมหน้ากากอนามัย (medical mask) อย่างถูกต้องเมื่อต้องพบปะผู้อื่นเป็นเรื่องสำคัญจะห่างกี่เมตรก็ตาม การล้างมืออย่างถูกต้องนาน 20 วินาที ก่อนนำมือไปสัมผัสใบหน้าชองตนเองเป็นเรื่องสำคัญ

สำหรับมุสลิม การละหมาดรวมกัน (ญะมาอะฮฺ) การละหมาดญุมอัตวันศุกร์ การละหมาดตะรอเวียะฮฺรวม การละศีลอดรวมที่จะเกิดขึ้นในรอมฎอน การรวมกลุ่มกันในกิจกรรมต่างๆแม้เพื่อฟังธรรมหรือในเจตนาที่ดี ควรละเว้นไว้ในช่วงเวลานี้จนกว่าการลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเกิดขึ้นติดต่อกันนานเกิน 14 วันและทางฝ่ายสาธารณสุขผ่อนปรนให้ทำกิจกรรมปกติได้ เลิก lockdown ได้ เวลานี้ยังไม่ถึงเวลานั้นจึงขอให้อดทน

อีกเรื่องหนึ่งที่ขอฝากไปยังฝ่ายยุทธศาสตร์ของรัฐบาลคือฝ่ายประชาชนใหความร่วมมือปฏิบัติตามคำแนะนำแล้ว ขอให้ฝ่ายยุทธศาสตร์เร่งนำประเด็นการผ่อนปรนหรือการเยียวยาด้านเศรษฐกิจมาพิจารณาด้วย เวลานี้จำนวนผู้ที่เจ็บปวดจากปัญหาทางเศรษฐกิจโตกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกินร้อยเท่าแล้ว หากปล่อยไว้นอกจากจะคุมโควิด-19 ไม่ได้แล้ว เศรษฐกิจยังกู่ไม่กลับอีกต่างหาก