ข้อเขียนเตือนสติจากลูกอ่อนซามูไรที่รักเมืองไทย

สองสามวันมานี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโก-วิดสิบเก้าเกินหมื่นต่อเนื่องกัน บางคนโกรธ บางคนท้อ แต่เราต้องไม่ถอดใจโยนผ้า ข้อความต่อไปนี้ผมคัดลอกมาจากข้อเขียนของคนอื่น ถอดมาจากบทความของคนญี่ปุ่นคนนึงที่รักเมืองไทยอย่างเหลือเกิน เขียนเมื่อไร ที่ไหน ไม่ทราบ คนญี่ปุ่นคนนี้ คือคนที่แสดงเป็นเด็กน้อยบนรถเข็นที่คุณพ่อเป็นซามูไร เข็นไปเรื่อยๆ ผจญภัยไปตลอดในเรื่อง ซามูไรพ่อลูกอ่อน เค้าเขียนไว้ดังนี้タイに何か問題があったとき、タイの若い人たちの投稿を見ているとเวลาที่ประเทศไทยเกิดปัญหาบางอย่าง คนไทยบางคนบอกว่า「こんな国もうだめだ」”จบแล้วประเทศนี้”「救いようがない」”ไม่มีใครช่วยได้”と言っているものが多く、日本やアメリカに行きたいと望む者もいるし、実際に行っている人たちもいる。มีหลายคนที่พูดแบบนั้นบางคนบอกว่าอยากไปอยู่อเมริกา หรือญี่ปุ่นบางคนก็อยู่ในประเทศแบบนั้น自分は彼らを非難しないし、実際タイはもう引き返せないくらいの危機的状況にあるだろう。ผมไม่ว่าพวกเขานะครับ และที่พวกเขาพูดก็จริง ประเทศไทยกำลังอยู่ในวิกฤตแม้กระทั่งอยู่ในจุดที่ไม่สามารถย้อนกลับได้人、環境、政府、すべてが退廃しきってしまっている。ประชาชน สิ่งแวดล้อม รัฐบาล เกือบจะพังしかし、合理的にだめだとわかっているから、すべてを投げ出していいということではない。แต่ถึงจะคิดอย่างมีเหตุผลว่าประเทศจะพัง การละทิ้งทุกอย่างก็เป็นเรื่องที่ผิดだめだとわかっていても、どうしようもないと悟っていても、それでも死中に活を求める人間がいなければ、その国は本当に終わってしまう。ถึงจะต้องพัง ถึงจะไม่สามารถช่วยได้ ถึงอย่างนั้น ก็ควรจะมีใครสักคนที่ยืนหยัดอยู่กับสถานการณ์แบบนั้นถ้าไม่มีคนแบบนั้น ประเทศก็จะพังอย่างแท้จริง戦後の日本を見るといい。ดูประเทศญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นะครับすべての価値は破壊され、市街は焼け野原で、街には進駐軍相手の娼婦がはびこった。สิ่งสำคัญถูกทำลายหมดเมืองก็พัง มีหญิงขายบริการให้ทหาร GI จำนวนมากそんな状況に辟易して、海外で暮らそうという日本人も当時多かった。มีคนญี่ปุ่นจำนวนมากอยากย้ายออกจากญี่ปุ่นเช่นกัน「進駐軍と結婚して日本を飛びだそう」”ฉันจะแต่งงานกับทหาร GI แล้วย้ายออกจากญี่ปุ่น”そんな日本人女性さえ多くいたのだ。มีผู้หญิงบางคนคิดแบบนั้นしかしそれでも、日本は復興した。ถึงอย่างนั้น ญี่ปุ่นก็สามารถฟื้นกลับมาได้それまで銃や刀をもっていた手をつるはしともっこに換え、พวกเขาเปลี่ยนจากการถือปืนและดาบ มาถือพลั่วและเสียมแทน国際社会から屈辱的な評価を受けても、だまって隣国にダムを造り道を広げ、医療に尽くしてきた。ถึงจะมีประเทศอื่นดูถูกญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นบางคนก็พยายามสร้างเขื่อน, สร้างถนน หรือสร้างโรงพยาบาลエコノミックアニマルと欧米から揶揄され、一部アジアから鬼のように罵られ続けながらも、その歩みを止めなかった。หลายๆประเทศเรียกญี่ปุ่นว่า “Economic animal”บางประเทศในอาเซียนเรียกญี่ปุ่นว่าปิศาจพวกเขาไม่เคยหยุดก้าวเดินそして今の日本は経済的地位、GDP世界3位である。แล้วญี่ปุ่นก็สามารถเป็นประเทศเศรษฐกิจอันดับ 3 ของโลกได้今は誰もがIphoneを持ち、望めば誰だって車が持てる。ทุกคนมีไอโฟน และถ้าต้องการก็สามารถซื้อรถเมื่อไหร่ก็ได้そんな時代だ。ปัจจุบันเป็นยุคแบบนั้น戦後の日本人で、今の日本を想像した人間が何人いたろうか。แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ใครจะคิดว่าอนาคตจะเป็นแบบนั้นครับでもこれはถ้ามีเหตุผล ก็อาจจะเป็นบางคนที่「だめだとわかっていても、それでも俺はやり続ける」”ถึงจะไม่สามารถช่วยได้ ฉันก็จะทำ”そんな男たちがいたからではなかったか。คนแบบนั้นครับ損な役回りであれ、自分の生まれた環境と周囲に感謝し、進んでそんな仕事を引き受けてくれた男たちがたくさんいたからこそ、今の日本があるのではないか。ถึงจะเสียเวลาและเสียเงิน ก็มีบางคนก็พยายามทำแบบนั้นนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวขึ้นมาได้ครับタイも同じだ。ผมคิดว่าประเทศไทยก็เช่นกันこれからタイは、もしかしたら当時日本が味わったような、もしかするとそれ以上の悲惨な時代を迎えるかもしれない。ไทยอาจจะเสียหายมากกว่าช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2「しかしそれでも自分はタイ人であり、この国にとどまる」แต่อนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับว่า จะมีคนรุ่นใหม่สักกี่คนที่พูดว่าこういう若い人が何人いるかでこれからのタイの運命は決まると思う。”ถึงยังไงก็ตาม ฉันเป็นคนไทย และฉันจะอยู่ที่นี่”自分の今のボランティアに究極の目的があるとしたら、そんなタイ人を生み出すことにある。ถ้าผมมีเป้าหมายสุดท้ายของการทำจิตอาสานี่คือสิ่งนั้นครับโคคิ โทมิคาวะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *