การถือศีลอดวันตาชูอาอฺและอาชูรออฺ

การถือศีลอด หรือถือศีลอดอาหาร ในภาษาอาหรับใช้คำว่า “อัศ-เศาม” หรือ “อัศ-ศิยาม” (الصوم Fasting) หมายถึง ละ งด ระงับยับยั้ง ควบคุม ครองตน การถือศีลอดในทางศาสนาปฏิบัติกันในรูปแบบต่างๆ บางพวกอดอาหารตลอดวัน บางพวกงดเพียงครึ่งวัน บางพวกบริโภคอาหารหนักโดยไม่ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ และบางกลุ่มงดบริโภคเนื้อสัตว์ การถือศีลอดมีมาแล้วในประวัติศาสตร์ของหลายประชาชาติ เริ่มในชาวอียิปต์โบราณ ต่อมาแพร่หลายไปยังชาวกรีกและโรมัน การถือศีลอดยังพบในบางกลุ่มของชาวฮินดู ชาวคริสต์ ชาวพุทธ นบีมูซา (อ.ล.) ศาสดาของชาวยิว นบีอีซา (อ.ล.) หรือพระเยซูคริสต์ศาสดาของชาวคริสต์มีประวัติว่าถือศีลอดเป็นเวลา 40 วัน สำหรับอิสลาม การถือศีลอดคือการอดอาหารเครื่องดื่ม งดเว้นการเสพกาม อดกลั้นการทำความชั่วทุกชนิด แม้เพียงนึกคิด ตั้งแต่รุ่งสางก่อนดวงตะวันขึ้นจนตะวันลับขอบฟ้าตลอดเดือนรอมฎอน (เดือนที่ 9 ตามปฏิทินอิสลาม) ของทุกปี เป็นเวลาประมาณ 29 ถึง 30 วัน ข้อบัญญัตินี้ปรากฏในอัลกุรอานบทที่ 2 อัลบะเกาะเราะฮฺ วรรคที่ 185 บังคับใช้สำหรับมุสลิมทุกคนที่เข้าเกณฑ์ศาสนบัญญัติ เริ่มตั้งแต่ปีฮิจเราะฮฺที่ 2 ซึ่งมุสลิมปฏิบัติกันมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ การถือศีลอดเป็นการทดลองและฝึกหัดร่างกายให้รู้จักอดทนอดกลั้น ให้รู้จักสภาพอันแท้จริงของผู้ที่อัตคัดขัดสน ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจ เป็นการขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์ พ้นจากอำนาจใฝ่ต่ำ มีคุณธรรม และที่สำคัญคือการถือศีลอดยังประโยชน์มากมายต่อสุขภาพซึ่งทางการแพทย์ยืนยันกันมานานแล้วมุสลิมมิได้ถือศีลอดเฉพาะเดือนรอมฎอน ยังนิยมถือกันในเดือนอื่นนับเป็นการถือศีลอดแบบสมัครใจไม่บังคับโดยยึดถือตามแบบฉบับของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) เช่น เดือน 8 ชะอฺบานเว้นสัปดาห์สุดท้าย การถือศีลอดวันจันทร์ พฤหัสบดี การถือศีลอดวันขึ้น 13, 14, 15 ค่ำเรียกว่า“อัลอัยยามอัลบีฎ” (الأيام البيض) หรือข้างแรม 13, 14, 15 ค่ำ “อัลอัยยามอัสวัด” (الأيام أسود) นอกจากนี้ยังมีวันพิเศษ 3 วันคือวันที่ 9, 10 เดือนมุฮัรรอมหรือเดือน 1 เรียกว่า #วันตาชูอาอฺ และ #วันอาชูรออฺ อีกวันคือวันอะรอฟะฮฺ ตรงกับวันที่ 9 เดือนซุลฮิจญะฮฺหรือเดือน 12วันนี้วันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ.2563 ตามปฏิทินอาหรับตรงกับวันที่ 9 เดือนมุฮัรรอมเป็นวันตาชูอาอฺจะเรียกว่าวันสุกดิบของวันอาชูรออฺก็ได้ ก่อนที่อิสลามจะบังคับการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน มุสลิมถือศีลอดในวันอาซูรออฺ ช่วงท้ายชีวิตของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) เมื่อท่านพบว่าชาวยิวถือศีลอดในวันที่ 10 เดือนนิซาน (เดือน 1 ตามปฏิทินยิว) เช่นเดียวกับมุสลิมท่านจึงกล่าวว่าหากท่านมีชีวิตในปีรุ่งขึ้นท่านจะถือศีลอดในวันที่ 9 เดือนมุฮัรรอมเพิ่มเติมอีกหนึ่งวัน ท่านถึงแก่อนิจกรรมก่อนถึงปีรุ่งขึ้นจึงไม่สามารถปฏิบัติตามที่ตั้งเจตนาไว้ได้ มุสลิมจำนวนไม่น้อยจึงถือปฏิบัติตามเจตนารมณ์นี้โดยถือศีลอดวันที่ 9 และ 10 เดือนมุฮัรรอม ซึ่งปีนี้ตรงกับวันนี้และพรุ่งนี้ ใครถือศีลอดวันนี้ไม่ทัน ถือศีลอดวันพรุ่งนี้วันเดียวก็ได้ กำไรทั้งผลบุญทั้งสุขภาพ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *