ราชวงศ์อับบาสิยะฮฺปกครองอาณาจักรอิสลามนาน 500 ปีตั้งแต่ ค.ศ.750 ถึง ค.ศ.1258 จบลงเมื่อแบกแดดถูกกองทัพมองโกลเผาทำลายคล้ายอยุธยาถูกพม่าเผาใน ค.ศ.1767 แต่มองโกลโหดร้ายกว่าพม่าแยะ อย่างไรก็ตามเวลานั้นศูนย์กลางการปกครองโลกอิสลามไม่ได้อยู่กับคอลีฟะฮฺแห่งแบกแดดแล้ว อำนาจกระจัดกระจายไปอยู่ในมือสุลต่าน อามิรและชีคในพื้นที่ต่างๆทั่วอาณาจักร คอลีฟะฮฺแห่งแบกแดดเป็นคล้ายผู้นำทางศาสนาในหลายพื้นที่ไม่ได้มีอำนาจอะไรมากมายเหมือนเก่า เห็นได้ว่าตอนช่วงปลายราชวงศ์อับบาสิยะฮฺ กลุ่มชนชาวเติร์กไม่ว่าจะเป็นเติร์กมองโกลอย่างราชวงศ์เซลจุก เติร์กเปอร์เซียราชวงศ์ควารัสเมียน แบ่งอาณาจักรเอาไปปกครอง เกมอำนาจในพื้นที่จึงเปลี่ยนมือไปมาระหว่างชนอาหรับ เปอร์เซียและเติร์กจนกระทั่งถึงการมาของชนมองโกลกลางคริสต์ศตวรรษที่ 13 พร้อมการล่มสลายของแบกแดดนั่นแหละชนเผ่าเติร์กมองโกลเข้าครอบครองคาบสมุทรอะนาโตเลียที่เคยเป็นพื้นที่ของจักรวรรดิโรมันไบแซนไทน์ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่สงครามครูเสดครั้งที่ 1 ใน ค.ศ.1099 ทัพครูเสดเข้ามาสร้างรัฐเล็กๆไว้มากมายในพื้นที่ตะวันออกกลาง แม่ทัพมุสลิมที่ทำหน้าที่ปกป้องอาณาจักรอิสลามได้โดดเด่นที่สุดคือ #ศอลาฮุดดิน (#Salahuddin) ซึ่งเป็นชาวเคิร์ดอาหรับต้นราชวงศ์อัยยูบิดที่ปกครองซีเรียและอิยิปต์ระหว่าง ค.ศ.1174-1250 หลังจากนั้นมัมลุกส์ทหารทาสของราชวงศ์อัยยูบิดทำหน้าที่นำทัพต้านทานกองทัพครูเสดในเวลาต่อมา ซึ่งปรากฏว่ากองทัพมัมลุกส์ที่มีเชื้อสายเติร์กมองโกลญาติใกล้ชิดกับมองโกลทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ไม่เพียงต่อต้านมองโกลได้เท่านั้น ยังสามารถปิดเกมสงครามครั้งสุดท้ายกับกองทัพครูเสดใน ค.ศ.1272 ได้อีก แม่ทัพมุสลิมคนสำคัญคือ “#เบบาร์ส” (#Baybars) สุลต่านมัมลุกส์ช่วง ค.ศ.1260-1277เบบาร์สเป็นชาวเติร์กเผ่ากิบชักเกิดในแถบคอเคซัส หลบหนีการรุกรานของกองทัพมองโกลไปทางแถบทะเลดำก่อนครอบครัวถูกมองโกลสังหารที่บุลกาเรีย เบบาร์สกลายเป็นทาสถูกส่งมาขายในอะนาโตเลียทำงานรับใช้สุลต่านแห่งรัม ก่อนถูกส่งมายังไคโรและได้รับการปลดปล่อยโดยสุลต่านแห่งไคโร ทำงานเป็นทหารมัมลุคส์รับใช้สุลต่านมาตั้งแต่ ค.ศ.1247 เบบาร์สเป็นคนตัวใหญ่ ผิวขาว นัยน์ตาสีฟ้า ความที่เป็นนักรบมาตั้งแต่หนุ่มผ่านสงครามมามากจึงเป็นคนหยาบกระด้าง โหดเหี้ยม กระทั่งก้าวขึ้นเป็นสุลต่านมัมลุกส์ปกครองไคโรได้ใน ค.ศ.1260 หลังทำศึกได้ชัยชนะต่อมองโกลที่อัยน์จาลุตและสังหารสุลต่านของตนเองยึดอำนาจได้สำเร็จเบบาร์สโชกโชนการรบกับกองทัพครูเสดและอัศวินเทมปลาร์มาตั้งแต่สงครามครูเสดครั้งที่ 7 ค.ศ.1248-1254 เป็นแม่ทัพมัมลุกส์ที่จับเป็นพระเจ้าหลุยส์ที่ 19 กษัตริย์แห่งฝรั่งเศสในสงครามครูเสดครั้งที่ 8 อีกทั้งยัดเยียดความปราชัยให้กับกองทัพของพระองค์อีกครั้งในสงครามครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นครูเสดครั้งสุดท้าย ในที่สุดพระเจ้าหลุยส์ที่ 19 สิ้นพระชนม์จากโรคระบาดในสมรภูมิตูนิส กษัตริย์ฝรั่งเศสพระองค์นี้ได้รับการยกย่องจากแคธอลิกให้เป็นนักบุญเซ็นต์หลุยส์ในเวลาต่อมา #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน