แฟลชม็อบวันนี้จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเหมือน พ.ศ.2516 ไหม

นานๆจึงจะเขียนเรื่องการเมืองสักครั้ง ความที่เจอคนแยะทำให้ผมต้องแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นอยู่บ่อย อย่างเช่นวันนี้ ผมคุยกับนักการเมืองท้องถิ่นกรุงเทพมหานครเรื่องการบ้านการเมือง มีคำถามสั้นๆว่าผมมีความเห็นอย่างไรในเรื่องการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาที่เรียกกันว่าแฟลชม็อบเวลานี้ จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเหมือนเมื่อครั้ง 14 ตุลา 2516 หรือไม่เพราะกระจายไปแล้วทั่วประเทศทั้งยังลึกลงไปในระดับเตรียมอุดมศึกษาอีกต่างหาก คล้ายเหตุการณ์ก่อน 14 ตุลา 2516 ผมตอบไปว่ายังไม่เหมือน 14 ตุลาเพราะยังขาดปัจจัยสำคัญคือทหารและประชาชน

ผมเป็นนักชีวเคมีแต่จะเป็นวิชาชีพอะไรไม่สำคัญหรอก หลักการทางวิชาการไปๆมาๆแทบไม่ต่างกัน ปฏิกิริยาทางสังคมจึงไม่ต่างจากปฏิกิริยาทางชีวเคมีสักเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาเหมือนเอนไซม์ที่ทำหน้าที่เป็นสารเร่งปฏิกิริยา หากไม่มีสารตั้งต้น (substrate) ไม่มีสารก่อปฏิกิริยา (reactant) ต่อให้เอนไซด์แอคทีฟเหลือหลาย ปฏิกิริยาก็เกิดไม่ได้

ในเหตุการณ์ 14 ตุลาซับสเตรทสำคัญคือประชาชนมีความพร้อม สะสมความไม่พอใจมานาน มีประสบการณ์ทางด้านมวลชนมาพอสมควร สารก่อปฏิกิริยาคือกลุ่มทหารภายในกองทัพที่พร้อมจะแยกตัว ดังนั้นเมื่อกลไกพร้อมเมื่อได้เอนไซม์เข้ามาจุดชนวน เหตุการณ์ 14 ตุลาก็เกิด เชื่อว่านิสิตนักศึกษาในเหตุการณ์วันนั้นเข้าใจกลไกที่ว่านี้ดี พวกเราหลายคนรุ่นหลังมักเข้าใจผิดว่าเหตุการณ์ 14 ตุลาคือการปฏิวัติของนิสิตนักศึกษาซึ่งผมไม่คิดว่าถูกต้องนัก นิสิตนักศึกษาคือตัวเร่ง ขณะที่กลไกสำคัญที่ทำให้ปฏิกิริยาเกิดได้สำเร็จคือประชาชนและทหารต่างหาก

ผมเป็นคนหนึ่งในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ผมเป็นนิสิตจุฬาร่วมเดินอยู่ในขบวนของอาจารย์เสกสรรค์ ประเสริฐกุล พวกเราจำนวนห้าพันคนเคลื่อนขบวนพร้อมกับขบวนใหญ่ที่มีนับแสน สุดท้ายช่วงเย็นวันที่ 13 ส่วนของเราแยกไปรวมกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้าก่อนย้ายไปหน้าพระราชวังจิตรลดา ช่วงเช้าวันที่ 14 ตุลาเมื่อเกิดการปะทะกันกับตำรวจที่ข้างวังสวนจิตรลดา ผมกับเพื่อนถอยกลับไปที่จุฬาลงกรณ์ นักศึกษาบางส่วนถอยกลับไปที่ธรรมศาสตร์ซึ่งนิสิตนักศึกษาประชาชนที่มีเกือบแสนคนเมื่อเลิกขบวนช่วงเย็นวันที่ 13 คุลายังมีนับจำนวนหมื่นไปรวมกันอยู่ที่นั่น นั่นเองที่นำไปสู่การลุกฮือของนิสิตนักศึกษาประชาชนในวันนั้น การพลิกกลับของทหารบางส่วน พระราชดำรัสของในหลวงเป็นผลให้เหตุการณ์สงบ

ในฐานะของผู้ที่ร่วมเหตุการณ์ 14 ตุลามีชื่อเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกแจ้งว่าสูญหายในเหตุการณ์วันนั้นเสียด้วยซ้ำ เมื่อขอให้ผมแสดงความเห็น ผมบอกเลยว่าการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาที่ดูครึกครื้นในวันนี้ยังเทียบไม่ได้กับเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ความพร้อมของปัจจัยยังมีไม่พอ วันนี้เราไม่มีรัฐบาลทรราชทั้งไม่มีการแตกแยกของกองทัพเช่นในอดีต ผมจึงไม่คิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเช่นที่บางฝ่ายคาดการณ์หรือโหรบางคนออกมาทำนายทายทัก เรามีแต่โรคโควิด-19 ที่ต้องข่วยกันแก้ไขและอยากให้พวกเราไปซีเรียสกันตรงนั้นน่าจะดีกว่า

ผมให้ความเห็นในที่นี้เป็นการส่วนตัว ขออย่าเข้าใจว่าผมเป็นพวกโน้นพวกนี้เลย