อาหรับ-เบอร์เบอร์ มุสลิมผู้สร้างอารยธรรมอิสลามในสเปน ตอนที่ 57

ศึกพื้นลื่นหรือ “ศึกแห่งซากราจาส” (Battle of Sagrajas) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม ค.ศ.1086 ทัพมุสลิมอัลโมราวิดกับทัพคริสเตียนรีคองเกสต้าเผชิญหน้ากันที่เมืองเล็กๆชื่อซากราจาส ใกล้เมืองบาดาจอส (Badajoz) ติดพรมแดนปอร์ตุเกสในปัจจุบัน ตามธรรมเนียมการศึก กษัตริย์อัลฟองโซ่ที่ 6 ยื่นข้อเสนอให้ยูซุฟ อิบนฺ ตัชฟิน ยอมจำนน ยูซุฟแลกเปลี่ยนด้วยสามเงื่อนไขคือ ทหารคาสติลยอมเข้ารีตเป็นอิสลาม หรือยอมจ่ายบรรณาการที่เรียกว่าจิซยะฮฺ (Jizyah) หรือทำสงคราม เมื่อตกลงกันไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายจึงปรับทัพเข้าทำศึกกันการศึกดำเนินไปอย่างดุเดือดในวันเดียว ด้วยกลศึกของยูซุฟ มุสลิมสูญเสียไพร่พลประมาณสามพันนาย พร้อมแม่ทัพคนสำคัญสองสามคน ขณะที่ฝ่ายรีคองเกสต้าสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก ทัพม้าแตกหนีจากสนามรบ เมื่อเข้า ค.ศ.1087 ในขณะที่กองทัพอัลโมราวิดเตรียมรุกเพื่อกวาดล้างกองทัพคาสติลและพันธมิตรส่วนที่เหลือ เวลาเดียวกันนั้นเอง ยูซุฟได้รับทราบข่าวร้ายว่า อบูบักรฺ ผู้ปกครองร่วมของอัลโมราวิดเสียชีวิตจากธนูอาบยาพิษในการรบทางตอนใต้ของซาฮารา จำต้องนำกำลังพลส่วนใหญ่กลับโมรอคโค โดยยังมั่นใจว่าความสูญเสียขนาดหนักของฝ่ายรีคองเกสต้าทำให้กองทัพมุสลิมในพื้นที่ไอบีเรียยังคงความได้เปรียบอยู่ปัญหาที่ทำให้อบูบักรฺเสียชีวิตมีความซับซ้อนสูง โดยมีทั้งประเด็นความขัดแย้งด้านสุนหนี่ ชีอะฮฺ ด้านสาขานิกาย ด้านรายละเอียดของการตัดสิน (ฟัตวา) ประเด็นเคาะวาริจญฺที่ลากยาวมานานนับร้อยปี การไม่เป็นนักวิชาการศาสนาอิสลามอาจมีส่วนทำให้ยูซุฟและอบูบักรขาดมุมมองด้านศาสนาในการวิเคราะห์ความขัดแย้ง เป็นต้นว่า ประเด็นการใช้บริการนักรบรับจ้างนอกศาสนาในการทำศึกปกป้องศาสนา ซึ่งถกเถียงกันมายาวนาน ปัญหาลักษณะนี้ลุกลามขึ้นอันส่งผลให้อัลโมราวิดต้องล่มสลายไปในเวลาเพียงหนึ่งศตวรรษปัญหาที่เกิดขึ้นทางภาคใต้ของซาฮารากระทั่งสร้างความขัดแย้งระหว่าง “อัลโมราวิด” หรือ “อัลมุรอบิฏุน” (المرابطون Almurabitun) กับกลุ่มที่ต่อต้านการปกครองของอัลโมราวิดที่สำคัญคือกลุ่ม “อัลโมฮัด” (Almohad) หรือ “อัลมุวะฮิดุน” (المُوَحِّدون Almuwahhidun) ที่ยืดเยื้อมานาน ความขัดแย้งนี้เริ่มต้นโดยนักวิชาการศาสนาอิสลามชื่อ “อบูอับดุลเลาะฮฺ มุฮัมมัด อิบนฺ ตุมัรตฺ” ( محمد ابن تومرت‎ أبو عبد الله Abu Abd Allah Muhammad ibn Tumart ค.ศ.1080-1130) ซึ่งเป็นผู้นำของกลุ่มอัลโมฮัด จึงควรรู้จักบุคคลผู้นี้ไว้ ความขัดแย้งดังกล่าวส่งผลร้ายแรงกระทั่งทำให้ราชวงศ์อัลโมราวิดล่มสลายลงโดยมีอายุค่อนข้างสั้นจาก ค.ศ.1040-1147 เพียง 107 ปี หลังจากนั้น กลุ่มอัลโมฮัดที่ขัดแย้งในประเด็นศาสนามาตลอด ก้าวขึ้นสู่อำนาจแทนที่โดยจัดตั้งราชวงศ์คอลีฟะฮฺอัลโมฮัดที่มีอายุจาก ค.ศ.1121–1269 ต่อไปอีก 148 ปี อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของทั้งอัลโมราวิดและอัลโมฮัดช่วยให้อาณาจักรอันดาลุสธำรงอยู่ในไอบีเรียต่อไปได้ยาวนานต่อเนื่องอีกถึงสี่ศตวรรษแทนที่จะต้องล่มสลายลงพร้อมหรือหลังราชวงศ์อุมัยยะฮฺในศตวรรษที่ 11 #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *