เมื่อไหร่จะได้เที่ยวอวกาศ

ย้อนเวลากลับไป 40 ปี เคยมีการสำรวจเรื่องการท่องเที่ยวพบว่าความฝันสูงสุดโดยเฉลี่ยของมนุษย์คือการได้ออกไปย่ำอวกาศ ได้ไปนอนดูดาวนับล้านดวงในภาวะที่ไม่มีแสงหรือฝุ่นผงรบกวนเลย ได้เห็นส่วนโค้งของโลกในสภาพอวกาศที่ท้องฟ้าเป็นสีดำมืดมิด ได้ขึ้นไปกระโดดกันบนดวงจันทร์ หรือดาวเคราะห์คล้ายโลกสักดวง เพราะฝันกันอย่างนั้น จึงมีหลายบริษัทอวกาศออกมาสร้างฝันกันว่าภายใน ค.ศ.2020 มนุษย์จะได้ออกไปนอนกันเป็นสัปดาห์ในอวกาศ ได้นอนพักในโรงแรมอวกาศแห่งแรกของโลก ผ่านมาจนจะปลาย ค.ศ.2020 แล้ว โรงแรมที่ว่านั้นยังไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นได้เลย ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นเมื่อสี่สิบปีที่แล้ว ภาพฝันของการท่องเที่ยวในอวกาศยังไม่ยุ่งยากสักเท่าไหร่ มีภาพยนตร์มากมายออกมาแสดงให้เห็นว่ามนุษย์สามารถเดินทางจากดาวดวงหนึ่งไปยังดาวอีกดวงหนึ่ง เรื่องการเดินทางข้ามกาแลกซีคล้ายเป็นเรื่องปกติ ทว่าเมื่อเทคโนโลยีอวกาศก้าวหน้ามากขึ้น สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคาดคิดคืออวกาศกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าที่เคยวาดฝันไว้ การเดินทางไปยังดวงดาวคล้ายโลกในระบบสุริยะที่ใกล้ที่สุดยังต้องใช้เวลานับหมื่นปี ทั้งค่าใช้จ่ายในการลงทุนกับอวกาศแทบไม่ลดลงเลยซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีสาขาอื่นที่ยิ่งนานวันราคาก็ยิ่งถูกลงแถมศักยภาพสูงขึ้นตามกฎของมัวร์ส ทว่าอวกาศมันไม่ใช่อย่างนั้น ใครคิดจะเที่ยวอวกาศคงต้องใช้เงินไม่น้อยกว่าสองแสนเหรียญสหรัฐต่อเที่ยวบิน นั่นแค่ขึ้นไปได้เดี๋ยวเดียวในระดับ sub-orbital ใต้วงโคจรเท่านั้น เดิมทีเคยฝันที่จะไปลอยเท้งเต้งนอนในอวกาศได้นานเป็นสัปดาห์ ผลปรากฏว่าราคาโรงแรมระดับนั้นต้องจ่ายกันหลายล้านเหรียญสหรัฐ เป็นอย่างนี้เองที่ทำให้ความกระตือรือร้นของบรรดานักเที่ยวลดลง กระแสเริ่มหดหายไป ผลที่ตามมาคือแหล่งทุนต่างๆพากันบ่ายเบี่ยง กระทั่งทำให้ภาคเอกชนพากันชะลอโครงการอวกาศกันแทบหมด นี่คือคำตอบว่าเหตุใดถึง ค.ศ.2020 แล้ว โรงแรมอวกาศจึงเกิดขึ้นไม่ได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *