เนื้อหมูปลอมเป็นเนื้อวัว สังเกตที่ไหน ดูกันอย่างไร

เนื้อสุกรหรือหมูมีกลิ่นพิเศษที่แม้แต่คนกินหมูเองก็ไม่ชอบ กลิ่นที่ว่านี้คล้ายเหงื่อไคล หรือแอมโมเนียจากปัสสาวะ สารเคมีที่สร้างกลิ่นคือ “แอนโดรสเตอโนน” (Androstenone) นอกจากนี้ยังมีอีกกลิ่นหนึ่งที่ระเหยออกมาจากเนื้อหมูเมื่อได้รับความร้อน ออกไปทางเหม็นจากสารเคมีที่ชื่อว่า “สกาโทล” (Skatole) สร้างจากตับและลำไส้ใหญ่ บางคนว่าเป็นกลิ่นอุจจาระ ล้างด้วยน้ำปริมาณมากกลิ่นนี้จะหายไปได้ กลิ่นที่ว่านี้ไม่ได้เป็นเหตุผลให้มุสลิมไม่บริโภคหมู เหตุผลหลักคืออัลกุรอานห้ามไว้ซึ่งปรากฏในหลายบท ส่วนที่ว่าเนื้อหมูมีพยาธิ์หรือเชื้อโรค หมูเป็นสัตว์สกปรก กินอาหารไม่เลือกนั่นเป็นเพียงเหตุผลรอง สรุปเอาเป็นว่ามุสลิมไม่กินหมูพักนี้มีตัวอย่างเนื้อส่งมาวิเคราะห์ดีเอ็นเอ (DNA) ที่ #ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวนมาก ผู้ส่งเป็นผู้ขายอาหารบ้าง ขายเนื้อตามเขียงในตลาดบ้าง เกิดความสงสัยในเนื้อที่ตนเองรับซื้อมา เนื้อหมูราคาแตกต่างจากเนื้อวัวมาก เป็นเหตุผลเชิญชวนให้คนเห็นแก่ได้ นำเนื้อหมูมาย้อมเป็นเนื้อวัว วิธีเปลี่ยนสีของเนื้อหมูให้ดูคล้ายเนื้อวัว ทำได้ตั้งแต่การใช้เนื้อหมูแก่ หรือเนื้อหมูที่เลี้ยงด้วยสารเร่งเนื้อแดงอย่าง เคลนบูเทอรอล (Clenbuterol) ซิลปาเทอรอล (Zilpaterol) แรคโตพามีน (Ractopamine) ที่มีฤทธิ์เร่งการเปลี่ยนไขมันให้เป็นกล้ามเนื้อ และลดการสะสมไขมันในเนื้อเยื่อ สารหลายตัวเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อีกวิธีหนึ่งคือการย้อมสี อาจย้อมด้วยสีผสมอาหารหรือสีสังเคราะห์ หรือย้อมด้วยเลือดวัวเพื่อกลบกลิ่นเนื้อหมูสิ่งที่น่าตกใจคือในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทางศูนย์ตรวจเนื้อไป 8 ตัวอย่าง พบ 7 ตัวอย่างเป็นเนื้อหมู ส่งมาจากหลายแหล่งในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่สีแดงจากการย้อมด้วยเลือดวัว ตรวจดีเอ็นเอแล้วพบว่าเป็นเนื้อหมู ส่วนเลือดที่ติดมาเป็นเลือดวัว บางตัวอย่างคงเป็นเนื้อหมูแก่ หรือใช้สารเร่งเนื้อแดงเพราะเนื้อสีเข้มโดยไม่พบเลือดวัว น่าตกใจกว่านั้นคือสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม รับตัวอย่างเนื้อมา 15 ตัวอย่าง ตรวจดีเอ็นเอให้ผลออกมาว่า 13 ตัวอย่างเป็นเนื้อหมู ทุกตัวอย่างจุมด้วยเลือดวัว ส่วนสองตัวอย่างเป็นเนื้อวัวจริง ทีมงานของ ดร.พรพิมล มะหะหมัด ทดลองนำเนื้อหมูแช่ด้วยเลือดวัวตรวจพบปริมาณดีเอ็นเอในลักษณะที่สอดคล้องกัน ราคาเนื้อวัวที่แพงกว่าเนื้อหมูมากน่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้น อีกปัจจัยหนึ่งคือเนื้อวัวจำนวนมากมาจากแหล่งเชือดและชำแหละที่ไม่มีการรับรองฮาลาล บางแห่งไม่มีแม้แต่การรับรองจากกรมปศุสัตว์ ค้าขายแบบคนกันเองอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสำคัญ ทำให้เนื้อหมูถูกสอดไส้เข้ามาในห่วงโซ่อุปทานของการค้าขายเนื้อ การตรวจสอบหากดูด้วยตาหาคำตอบได้ยาก สีของเนื้อไม่ต่างกันเลย ใช้วิธีการล้างเนื้อก็ยังบอกไม่ถูก อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ส่งเนื้อมาตรวจหลายรายกล่าวว่าลูกค้าสงสัยในรสสัมผัสของเนื้อที่นุ่มลิ้น ลูกค้าที่ไม่ใช่มุสลิมเคยลิ้มรสเนื้อหมูมาแล้ว ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นรสของเนื้อหมู อีกวิธีหนึ่งที่พอจะใช้การได้ มาจากประสบการณ์ของตัวนักวิทยาศาสตร์ของศูนย์เองที่บ่นว่าเนื้อหมูทุกตัวอย่างเมื่อหั่นแล้ว แม้ย้อมด้วยเลือดวัว ยังคงมีกลิ่นเฉพาะของเนื้อหมู เป็นกลิ่นสาปของสารเคมีแอนโดรสเตอโนน และสกาโทลที่บอกไว้ข้างต้น สังเกตจากกลิ่นคงพอจะบอกได้บ้าง ง่ายๆอย่างนั้น #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *