เจาะอดีตนครวัดด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์

กล่าวถึงศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มุสลิมอาจเข้าใจว่าคือมหามัสยิดอัลหะรอมที่นครมักกะฮฺ ซาอุดีอาระเบียหลายคนอาจคิดว่าคือโบโรบูโดร์ที่นครยอกยาการ์ต้า อินโดนีเซีย บางคนอาจทายว่าเป็นมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ นครวาติกัน แต่ที่ถูกกลายเป็น “นครวัด” หรืออังกอร์วัด ซึ่งเป็นวัดฮินดูและพุทธโบราณในเมืองพระนคร จังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา ปราสาทนี้มีพื้นที่มากถึง 200,000 ตารางเมตร ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ยาว 100 เมตร กว้าง 80 เมตร ปราสาทหินแห่งนี้ถือเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดยอดของชาวขอมโบราณ ตัวปราสาทแบ่งเป็น 5 หลังตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติเก่าแก่ของศาสนาฮินดูว่านี่คือศูนย์กลางจักรวาล กำแพงด้านนอกยาวด้านละ 1.5 กิโลเมตร มีคูน้ำล้อมรอบคล้ายเป็นมหาสมุทรบนสวรรค์ที่ห้อมล้อมเขาพระสุเมรุ หินที่ใช้สร้างปราสาทมีปริมาตรรวม 600,000 ลูกบาศก์เมตร ขนมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปมากกว่า 50 กิโลเมตรจึงต้องใช้แรงงานช้างกว่า 40,000 เชือกในการขน อีกทั้งใช้แรงงานคนนับแสน

ความงดงามของปราสาทหินนครวัดอยู่ที่โครงสร้างทางสถาปัตยกรรม เสาหิน 1,800 ต้นแต่ละต้นหนักกว่า 10 ตัน มีการสลักเสลากำแพงและเสาโดยใช้ช่างแกะสลัก 5,000 คน เฉพาะงานด้านการแกะสลัก ใช้เวลากว่า 40 ปีรวมแล้วการสร้างปราสาทหินจนแล้วเสร็จใช้เวลานับร้อยปี ปราสาทหินมโหฬารแห่งนี้สร้างในรัชสมัยของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยสร้างขึ้นให้เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู สร้างถวายพระวิษณุ ต่อมาในภายหลังจึงเปลี่ยนเป็นวัดในศาสนาพุทธ ใหญ่โตเก่าแก่อย่างนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงให้ความสนใจอย่างยิ่ง

เมื่อ ค.ศ.2012 ทีมนักโบราณคดีอเมริกันกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์นำทีมโดย ดร.ดาเมียน อีแวนส์ (Damian Evans) ใช้เฮลิคอปเตอร์ติดตั้งปืนยิงลำแสงเลเซอร์ราคา 250,000 เหรียญขึ้นไปบินสำรวจพื้นที่โดยรอบปราสาททำการยิงแสงเลเซอร์ปูพรมเป็นจุดๆนับล้านครั้งทั่วบริเวณประสาทหินและป่าโดยรอบกินพื้นที่ 250 ตารางกิโลเมตร เพื่อวิเคราะห์ว่าภายใต้พื้นดินบริเวณนั้นมีร่องรอยอะไรอยู่บ้าง เทคโนโลยีเลเซอร์ลักษณะนี้เรียกกันว่า light detection and ranging มีชื่อเรียกย่อว่า “ลิดาร์” (Lidar) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีฉายาหรือเทคโนโลยีอิเมจจิง (Imaging technology) แบบหนึ่ง

ข้อมูลจากลิดาร์ถูกนำมาวิเคราะห์ ช่วง 2012-16 ได้ข้อสรุปว่านครแห่งนี้เคยมีประชากรอาศัยตั้งแต่ 750,000-1,000,000 คน ทีมวิจัยตรวจพบหอคอย ป้อมทหารหลายแห่ง ทั้งยังพบบ่อน้ำนับร้อยแห่งอยู่ทั่วเมือง เศรษฐกิจของเมืองต้องเคยรุ่งเรืองอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดเมืองนี้กลับถูกรุกรานด้วยกลุ่มชนที่มีอารยธรรมต่ำกว่านั่นคือชาวจามที่มาจากเวียตนาม นครวัดจึงมีชะตากรรมไม่ต่างจากกรุงโรมสักเท่าไหร่ มีรุ่งเรืองและเสื่อมทรุดไปตามกาลเวลา นี่เองที่เป็นความเที่ยงแท้ #drwinaidahlan#ดรวินัยดะห์ลัน#ประสาทหินนครวัด#lidar

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *