ว่าด้วยเรื่องการนอนหลับ

ว่ากันว่าหากมีใครหัวถึงหมอนก็หลับ คนมักเข้าใจว่านั่นแสดงถึงความโชคดี เอาเข้าจริงบุคลิกอย่างนี้อาจโชคดีจริงหรือไม่จริงก็ได้ หลายคนหัวถึงหมอนหลับเลยอาจแสดงถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายอ่อนเพลียแค่คิดว่าจะนอนก็หลับซะแล้ว โชคดีจริงหรือไม่ให้ลองสังเกตดูว่าตอนตื่นยังออกอาการเพลียอยู่หรือเปล่า หากยังรู้สึกว่านอนไม่เต็มอิ่มแสดงว่าที่หัวถึงหมอนแล้วหลับนั่นน่ะเป็นเพราะก่อนหน้านั้นอาจนอนไม่พอก็ได้ส่วนคำพูดที่ว่านอนหลับรวดเดียวจากหัวค่ำถึงเช้าบ่อยครั้ง พฤติกรรมเช่นนั้นอาจไม่เป็นจริง คนปกติจะหลับและตื่นเป็นช่วงๆ โดยหลับสนิทไปช่วงหนึ่งจากนั้นจึงตื่นแล้วหลับต่อ เป็นอย่างนี้คืนละสามสี่ครั้ง หากหลับสนิทจริงไม่ควรจำได้ว่าตนเองตื่นขึ้นมาเป็นช่วงๆแล้วหลับต่อ อย่างนั้นแสดงว่าหลับไม่สนิทจริง คนบางคนตื่นมาแล้วกว่าจะหลับอีกครั้งใช้เวลาสิบยี่สิบนาที หากเป็นอย่างนั้นแสดงว่ามีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับคนบางคนเป็นคนนอนน้อยช่วงวันทำงาน จากนั้นพอถึงวันสุดสัปดาห์จะใช้วิธีนอนยาวเพื่อชดเชย วิธีการเช่นนี้คล้ายชดเชยชั่วโมงที่ขาดหายไป ทำนองนั้นพอจะยอมรับได้ แต่แพทย์ทั่วไปไม่แนะนำ การนอนให้อิ่มในแต่ละคืนจะเป็นวิธีที่ดีกว่า เหมือนไม่กินอาหารหรือกินไม่พอตลอดสัปดาห์แล้วไปกินชดเชยตอนช่วงสุดสัปดาห์ ทำอย่างนั้นอาจสร้างปัญหาต่อสุขภาพเอาได้จึงต้องระวังนอนกี่ชั่วโมงจึงจะเพียงพอ คนปกติจะนอนกันวันละ 7-9 ชั่วโมง หากนอนแค่หกชั่วโมงแสดงว่านอนน้อยไปหน่อย อยากแนะนำให้นอนเพิ่มอีกวันละหนึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตาม พักหลังคนจำนวนไม่น้อยนอนน้อยกว่าวันละ 7 ชั่วโมงแต่สุขภาพยังเป็นปกติ เป็นเช่นนี้จึงขึ้นกับแต่ละคนให้ลองสังเกตตนเอง ระวังอย่าให้สุขภาพเสื่อมเพราะนอนน้อยก็แล้วกัน หลายคนบางครั้งนอนง่ายบางครั้งนอนยาก ประเภทนี้ขอให้ระวังอย่าเผลอไผลไปใช้ยานอนหลับ หากนอนไม่หลับจริงการใช้ยานอนหลับเพื่อช่วยให้หลับอาจดีกว่านอนไม่หลับเลยและร่างกายอ่อนเพลียเพราะไม่ได้นอน ข้อแนะนำสำหรับคนนอนไม่หลับ วิธีที่ดีอาจอาบน้ำอุ่นๆหรือดื่มนมอุ่นๆก่อนนอน พยายามฝึกฝนนอนให้หลับจะดีกว่าการใช้ยานอนหลับ ฝึกให้ชินไม่ไปคิดเรื่องนอนไม่หลับให้มากต่อไปก็หลับได้เอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *