ตด”หรือ “#ผายลม” เป็นคำกริยาไทยที่หลายคนออกอาการรังเกียจ เป็นสิ่งที่ออกมาจากก้น มีทั้งกลิ่นทั้งเสียงที่ไม่เป็นที่สบอารมณ์ของคนส่วนใหญ่ แต่ใครจะไปรู้ว่าตดเป็นเรื่องของสุขภาพเหมือนกัน คนบางคนตดหรือผายลมบ่อยกระทั่งรำคาญตัวเอง อับอายทุกครั้งเวลาไปตดออกเสียงไม่สุภาพในที่สาธารณะ เสียงก็ปัญหาหนึ่ง กลิ่นก็อีกปัญหาหนึ่ง ในเมื่อตดสร้างความกังวล ตามมารยาทคนเราจึงต้องเรียนรู้ในการกลั้นตดไว้หน่อย ตดนั้นกลั้นได้โดยรีบออกมาให้พ้นบริเวณนั้นก่อนปล่อยตดออกมาเมื่อพ้นพื้นที่ออกมาแล้ว หากออกมาไม่ทัน ตดซะแล้วและเป็นอย่างนี้อยู่บ่อยๆจำเป็นจะต้องหาทางทำให้ตดไม่เหม็น เรื่องอย่างนี้ทำได้เช่นกัน การตดหรือผายลมไม่ได้หมายความว่าสุขภาพมีปัญหา แก๊สที่ออกมากับตดเกิดจากการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ แสดงว่าแบคทีเรียที่เป็นเพื่อนสุขภาพของเราที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ มีสุขภาพดี อาหารดี มันกินอาหารเข้าไปแล้วมันก็ถ่ายออกมาเป็นแก๊ส ทำให้คนตด นี่เป็นการคิดในแง่ดี อาหารหลายชนิดที่กินเข้าไปเป็นสาเหตุให้ตดได้บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาพืชผักทั้งหลาย อาหารที่ย่อยได้ยากมีใยอาหารสูง ย่อยได้ไม่หมดในลำไส้เล็กจึงผ่านมายังลำไส้ใหญ่ซึ่งเป็นที่อาศัยของแบคทีเรียจำนวนกว่าร้อยล้านเซลล์ มีจำนวนกว่าสี่ร้อยชนิดแบคทีเรียเหล่านี้เป็นเพื่อนมนุษย์ เมื่อได้อาหารเป็นพวกใยอาหารมันจะช่วยกันย่อยก่อนปล่อยสารที่เป็นกรดไขมันขนาดสั้นและสารบางชนิดออกมากลายเป็นอาหารของร่างกายต่อช่วยให้คนเรามีสุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้มันยังปล่อยแก๊สพวกคาร์บอนไดอ็อกไซด์ ไฮโดรเจนหรือมีเธนออกมาด้วย ก๊าซเหล่านี้ที่กลายตด ดังนั้นตดส่วนใหญ่จึงไม่มีกลิ่นส่วนตดเหม็นนั้นเป็นเพราะแก๊สที่สร้างจากแบคทีเรียมีองค์ประกอบของแก๊สไข่เน่าออกมาด้วย ซึ่งก็คือพวกแก๊สซัลเฟอร์ไดอ็อกไซด์หรือที่มีกำมะถันปนอยู่นั่นเอง พืชผักหลายชนิดมีสารพวกกลุ่มซัลโฟราเฟนซึ่งเป็นสารไฟโตนิวเทรียนท์อยู่มาก สารพวกนี้มีธาตุกำมะถันหรือซัลเฟอร์ปนอยู่จึงสร้างแก๊สไข่เน่าขึ้น หากไม่อยากตดเหม็นก็ต้องลดการกินผักกลุ่มนี้ลง อย่างบร็อกโคลี กะหล่ำ หัวไชเท้า ผักกาด รวมไปถึงถั่วทั้งหลาย อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าสารประกอบกำมะถันมักช่วยป้องกันมะเร็ง ตดเหม็นจึงแสดงว่าร่างกายเรามีสุขภาพดี ถ้างั้นยอมตดเหม็นหน่อยก็แล้วกันแต่อย่าไปรบกวนเพื่อนหรือคนอื่นเข้าล่ะ #DRWINAIDAHLAN, #ดรวินัยดะห์ลัน
