พักหลังผมเดินทางบ่อยเพราะต้องไปบรรยายเรื่องงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ฮาลาลของประเทศไทยที่หลายประเทศยอมรับว่าไทยพัฒนาก้าวหน้าที่สุด สิ่งหนึ่งที่แปลกใจคือนับแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยหนาแน่นจนน่าแปลกใจ ไม่เคยเห็นที่ไหนหนาแน่นเท่านี้ สงสารที่เห็นนักท่องเที่ยวเข้าแถวยาวเหยียดรอคิวผ่าน ตม.ยาวนานสัปดาห์นี้ ผมไปเกาะบาตัม อินโดนีเซีย ผ่านทางสิงคโปร์ เข้าสิงคโปร์ทางสนามบินชางงี (Shangi) แล้วผ่าน ตม. จากนั้นนั่ง Grab ไปท่าเรือเพื่อต่อเฟอร์รี่เข้าอินโดนีเซีย ขากลับก็ทำแบบเดียวกัน ผ่าน ตม.ทั้งประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เห็นประสิทธิภาพ ตม.ของสามประเทศเปรียบเทียบกัน บอกได้เลยว่า ตม.สิงคโปร์กินขาดด้วยระบบออโตเมติกทั้งหมด ทั้งไทยและอินโดนีเซียมีระบบ ตม.อัตโนมัติบริการเฉพาะคนประเทศตนเอง แต่ ตม.อัตโนมัติของไทยมีปัญหาบ่อย มักติดขัดอยู่ตรงช่วงสแกนนิ้วมือ ต้องย้อนไปเสียเวลากับ ตม.อัตโนมือให้เจ้าหน้าที่ตรวจด้วยมืออยู่บ่อยๆที่สิงคโปร์ ตม.อัตโนมัติเครื่องมือใหม่เอี่ยมให้บริการกับทุกคนทุกสัญชาติ ไม่มีติดขัด สแกนพาสปอร์ตไม่เคยมีปัญหา พาสปอร์ตเล่มที่เกิดปัญหาอยู่บ่อยๆกับ ตม.อัตโนมัติบ้านเรา กลับไม่มีปัญหาเลยกับเครื่องในสิงคโปร์ สแกนพาสปอร์ตแล้ว สแกนคิวอาร์โค้ด boarding pass สแกนหัวแม่โป้งก็จบ ไม่มีโอกาสได้เจอเจ้าหน้าที่สิงคโปร์เลย ทว่าขากลับ ตม.อัตโนมัติตรวจพบว่าการเข้าออกสิงคโปร์ของเราเป็นปัญหา จึงปฏิเสธการผ่านและส่งเราไปพบเจ้าหน้าที่ เมื่อตรวจสอบรู้ว่าเราใช้สิงคโปร์เพียงผ่านไปอินโดนีเซีย เข้าใจกันแล้ว ก็ให้เราผ่านไปได้เพื่อนที่สิงคโปร์บอกผมว่าอีกไม่นานนัก สิงคโปร์จะนำระบบ ตม.อัตโนมัติชนิดจดจำหน้า (face recognition biometric) มาใช้ ทุกคนเดินผ่านเข้าออกประเทศได้เลย ย้อนกลับมาดูบ้านเรา นักท่องเที่ยวผ่านเข้าออกหนาแน่นเข้าสู่ประเทศไทย ทำเอาด่าน ตม.ติดขัดยาวเหยียด ลองเอาระบบของสิงคโปร์มาใช้บ้างก็น่าจะดี #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #ตม, #ตมสิงคโปร์
