อาหารมีผลต่อพฤติกรรม เรื่องนี้รู้ดีกันอยู่แล้วอีกทั้งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ยังยืนยันกันออกมาชัดเจน อาหารประเภทอาหารขยะ ทั้งพิซซ่า พาสต้า โดนัท ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ แพนเค้ก รวมทั้งขนมกรุบกรอบประเภทแป้ง ลองสังเกตดูเห็นได้ว่าล้วนเป็นอาหารแป้งสูง น้ำตาลสูง ซึ่งมีส่วนทำให้ฮอร์โมนเซโรโทนินในสมองสูงขึ้นขณะที่ฮอร์โมนโดปามีนในสมองลดลง สมดุลของฮอร์โมนสองตัวเข้าไปมีผลทำให้คนเราเฉื่อยออกอาการขี้เกียจ ที่กล่าวกันว่าอาหารขยะทำให้ขี้เกียจจึงมีเหตุผลที่อธิบายได้แต่เดิมคนอาจเข้าใจว่าอาหารขยะทำให้อ้วนเพียงอย่างเดียว คนอเมริกัน คนยุโรปอ้วนเพราะอาหารขยะกันเป็นหลัก แต่ไม่ทันคิดว่าอาหารกลุ่มนี้จะมีผลทำให้ขึ้เกียจพร้อมกันไปด้วย หลายคนลองหยุดอาหารขยะไปแล้วปรากฏว่ามันไม่ให้ผลถึงขนาดทำให้กลับมาขยันขันแข็งได้อีกครั้ง จำเป็นต้องรอเวลาสักระยะหนึ่ง ดร.แอรอน เบรสเดลล์ (Aaron Blaisdell) แห่งภาควิชาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอทำงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร Physiology and Behavior เมื่อเดือนเมษายน 2014 โดยศึกษาในหนูทดลองได้ข้อสรุปออกมาว่าหนูที่กินอาหารขยะนานสามเดือนจะอ้วนและขี้เกียจ เมื่อให้หยุดอาหารขยะแล้วสามเดือน อาการขี้เกียจยังไม่ยอมหายไปไหน จำเป็นจะต้องหยุดนานกว่านั้น เลิกกินไปเลยย่อมดีที่สุดในการทดลองเขานำหนูเพศเมียจำนวน 32 ตัวแบ่งเป็นสองกลุ่มให้กินอาหารแตกต่างกันสองชนิดนานหกเดือน อาหารชนิดแรกเป็นอาหารปกติ ส่วนอาหารชนิดที่สองเป็นอาหารที่ผ่านกระบวนการขัดสีสูงเติมเกลือเติมน้ำตาลให้มีรสชาติดีขึ้น ซึ่งนั่นหมายถึงการทำให้เป็นอาหารขยะนั่นเอง และอาหารขยะที่ว่านี้ส่งผลให้หนูทดลองออกอาการขึ้เกียจ คำกล่าวที่ว่าอาหารขยะทำให้ขี้เกียจเดิมทีอาจฟังคล้ายพูดกันเล่นๆ งานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันออกมาแล้วว่าอาหารขยะมีผลทำให้ขี้เกียจได้จริงๆ ใครไม่เชื่อจึงควรจะเริ่มเชื่อได้แล้ว #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัย#อาหารขยะทำให้ขี้เกียจ
