นบีมุฮัมมัด (ศอลฯ) พลังละมุนแห่งอิสลาม ตอนที่ 32 ความเมตตาของท่านนบี

คัมภีร์อัลกุรอาน อัลอัมบิยา 21:107 กล่าวว่า “และเรามิได้ส่งเจ้า (นบีมุฮัมมัด ศ็อลฯ) มาเพื่ออื่นใดนอกจากเพื่อเป็นความเมตตาแก่ประชาชาติทั้งหลาย” จากอัลกุรอานบทนี้ ผู้รู้ในอิสลามสรุปความเมตตาของท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ที่มีต่อมวลมนุษยชาติไว้ในหลายมิติ ผู้รู้ท่านหนึ่งคืออุซตาส ริดวาน มุฮัมมัด บะซอร สมาชิก Asatizah Youth Network สิงคโปร์ นำเสนอเรื่องนี้ไว้ทางนิตยสารออนไลน์ muslim.sg เมื่อ 13 ตุลาคม 2021 เนื้อหากล่าวถึงความเมตตาของท่านนบีโดยระบุในเรื่องการให้อภัยเหนือการแก้แค้นและการมองเห็นข้อดีในตัวผู้อื่นประเด็นแรกการให้อภัยเหนือการแก้แค้น อุซตาสยกตัวอย่างเหตุการณ์จากเมืองฏออีฟซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมักกะฮฺไต่ระดับขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 90 กิโลเมตร โดยใน ค.ศ.619 ท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ที่เผยแผ่อิสลามในมักกะฮฺมานานเก้าปีได้ผลตอบรับดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งท่านอุมัร (ร.ฎ.) ศัตรูอันดับต้นของท่านนบีเข้ารับอิสลามมานานสามปีแล้ว ทว่าท่านยังเห็นว่ามุสลิมควรมีจำนวนมากกว่านั้นเพื่อปกป้องกลุ่มจากภยันตราย ท่านจึงเดินทางไปเมืองฏออีฟเพื่อเผยแผ่อิสลาม ในเมืองฏออีฟนี้ ท่านนบีมีเพื่อนอาศัยอยู่จำนวนไม่น้อย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองฏออีฟครั้งนั้น ท่านนบีไม่เพียงถูกปฏิเสธการรับอิสลามจากชาวเมือง ท่านยังถูกทำให้อับอายรวมถึงถูกทำร้าย นับเป็นประสบการณ์เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่ง แม้ยากจะลืมเลือน ทว่าสิ่งที่ท่านนบีทำคือขอพรต่ออัลลอฮฺ (ศุบฮฺฯ) ให้ทรงอภัยแก่ชาวเมืองฏออีฟ นั่นคือหนึ่งเหตุการณ์ ยังมีเหตุการณ์ที่หนักหนากว่านั้นเกิดขึ้นใน ค.ศ.625 ณ สมรภูมิอุฮุดระหว่างมุสลิมกับข้าศึกจากเมืองมักกะฮฺที่ยกเข้ารุกรานมะดีนะฮฺ ในการศึกท่านนบีแม้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่านกลับวิงวอนต่ออัลลอฮฺ (ศุบฮฺฯ) ขอทรงอภัยแก่ชาวมักกะฮฺที่มาทำศึกในครั้งนั้น ท่านกล่าวว่าการให้อภัยนั้นยิ่งใหญ่กว่าการจองเวรและล้างแค้นกรณีที่สอง คือการมองเห็นจุดดีในตัวผู้อื่น โดยอุซตาสยกตัวอย่างท่านอุมัร อิบนฺคอฏฏอบ รอฎิยัลลอฮุอันฮฺ คอลีฟะฮฺคนที่สองของอิสลาม ท่านผู้นี้เข้ารับอิสลามใน ค.ศ.616 หนึ่งปีหลังจากท่านนบีอนุญาตให้มุสลิมบางส่วนหนีภัยจากเมืองมักกะฮฺไปยังดินแดนอบิสซิเนียในอัฟริกา ก่อนหน้านั้น ท่านอุมัร ร.ฎ. แสดงตนโดยเปิดเผยมาตลอดว่าท่านเป็นปฏิปักษ์ที่น่าเกรงขามของท่านนบี สิ่งที่ท่านนบีทำคือการรอโดยขอพรให้หัวใจของท่านอุมัรอ่อนโยนลง กระทั่งถึงวันหนึ่งท่านอุมัรซึ่งโกรธมากกับข่าวที่ว่าน้องสาวของท่านละทิ้งความเชื่อเดิมและยอมรับอิสลาม ท่านเร่งเดินทางไปยังบ้านน้องสาว กระทั่งได้ฟังน้องสาวอ่านคัมภีร์อัลกุรอาน ฏอฮา 20:14 ท่านอุมัรได้ฟังแล้วจิตใจอ่อนโยนลงและยอมรับว่าถ้อยคำเหล่านั้นมาจากอัลลอฮฺ (ศุบฮฺ) อย่างแท้จริง ท่านเข้ารับอิสลามจากท่านนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ทันทีในวันเดียวกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากวันนั้นคือประวัติศาสตร์ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #นบีมุฮัมมัดพลังละมุนแห่งอิสลาม, #ความเมตตาของท่านนบีมุฮัมมัด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *