คนยุคเก่าเสียชีวิตมากที่สุดจากโรคติดเชื้อ ทว่าคนยุคใหม่กลับเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อหรือ NCD (Non Communicable Diseases) มากขึ้น NCD กลายเป็นปัญหาใหญ่ทำให้สังคมสูญเสียทรัพยากรสำคัญนั่นคือชีวิตมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้เสียภาษี อะไรที่ช่วยลดการเสียชีวิตจาก NCD ได้ก็ต้องหาทางสนับสนุน หนทางหนึ่งที่ช่วยลดการเสียชีวิตได้มากคือส่งเสริมการออกกำลังกายทีมวิจัยด้านโภชนาการจากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ทำการศึกษาวิจัยในประชากรกลุ่มใหญ่ มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 100,000 คน ติดตามการศึกษานาน 30 ปี ตีพิมพ์ผลงานในวารสาร Circulation ของ American Heart Association เดือนกรกฎาคม ค.ศ.2022 ได้ข้อสรุปว่าผู้ใหญ่ที่ออกกำลังกายปานกลางมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 26-31% ขณะที่ออกกำลังกายหนักขึ้นมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตลดลงอย่างมีนัยสำคัญ 21-23% การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดรวมถึงการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ในสหรัฐอเมริกา ค.ศ.2018 กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐอเมริกา (HHS) แนะนำให้ผู้ใหญ่ออกกำลังกายในระดับปานกลางด้วยการวิ่งเหยาะหรือเดินเร็วหรือแบบแอโรบิกอย่างน้อย 150-300 นาที/สัปดาห์ หรือออกกำลังกายหนัก 75-150 นาที/สัปดาห์ ผ่านมาจนถึง ค.ศ.2022 คำแนะนำของ American Heart Association ยังคงยึดแนวทางการออกกำลังกายของ HHS นั่นคือออกกำลังกายแบบแอโรบิกระดับความเข้มข้นปานกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรืออย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ หรือทั้งสองแบบคละกันในการติดตามศึกษาในประชากรกลุ่มใหญ่ ทีมวิจัยพบว่าการออกกำลังกายแบบแอโรบิกช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลง 31% จากการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดและลดความเสี่ยงจากโรคอื่นๆอีก 15% สิ่งที่ต้องระวังกันหน่อยคือการออกกำลังกายอย่างหนัก อย่างเช่น การแข่งขันกีฬาที่ใช้ความอดทนในระยะยาว เป็นต้นว่า มาราธอน ไตรกีฬา การแข่งขันจักรยานทางไกล อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ของหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงการเป็นพังผืดของกล้ามเนื้อหัวใจตาย การแข็งตัวของหลอดเลือดหัวใจ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว และกะทันหัน หัวใจวาย ข้อแนะนำในเรื่องการออกกำลังกายจึงหมายถึงชนิดปานกลาง ไม่หนักจนเกินไป หากออกกำลังกายในลักษณะการแข่งขันกีฬาจำต้องระวังปัญหาสุขภาพให้มากหน่อย #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #ออกกำลังกายลดการเสียชีวิต
