รู้จักคำว่า Internet of Things หรือ IOT (ไอโอที) ที่แปลว่า “อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง” กันดีอยู่แล้ว แต่อาจไม่คุ้นชินกับคำว่า Wearable Technology หรือ “เทคโนโลยีที่สวมใส่ได้” สักเท่าไหร่ คำหลังนี้หมายถึงทุกสิ่งที่สวมใส่ไว้กับตัวโดยติดตั้งอินเตอร์เน็ตหรือเทคโนโลยีอื่นๆพ่วงเข้าไปด้วย งานนี้ชิ้นที่น่าสนใจคือสมาร์ทโฟนที่ติดไว้กับตัวซึ่งเริ่มต้นจากกองทัพอเมริกันที่พัฒนาคอมพิวเตอร์ชนิดม้วนรัดไว้บนท่อนแขน ทว่ายังขาดความสะดวก ทางกองทัพอยากพัฒนาให้เป็นอินเตอร์เน็ตติดตั้งบนท่อนแขนโดยตรงเสียมากกว่า เป็นอินเตอร์เน็ตผิวหนัง (Skin internet) ว่ากันอย่างนั้น
งานอินเตอร์เน็ตผิวหนังนี้ ผู้พัฒนาไม่ใช่กองทัพอเมริกันแต่เป็นทีมงานจากมหาวิทยาลัยโตเกียวของญี่ปุ่นนำโดย ดร.ทาเกโอะ โซมิยะ (Takeo Somiya) เมื่อปี 2017 ใช้พลาสติกแปะบนผิวหนังคล้ายพลาสเตอร์ยา แผ่นพลาสติกบางมาก สามารถดัดตัวไปได้ตามพื้นผิวที่ใช้ หากแปะไปบนผิวหนังยังสามารถม้วนไปบนท่อนแขนท่อนขาสะดวกยิ่งกว่าคอมพิวเตอร์ชนิดม้วนที่กองทัพอเมริกันพัฒนาขึ้นในระยะแรก อีกข้อเด่นหนึ่งคือสามารถพัฒนาให้ทำงานได้ไม่ต่างจากสมาร์ทโฟนที่เป็นได้แทบทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป เครื่องคำนวณ เข็มทิศ ระบบจีพีเอส คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต ทีวี วีดิโอ วิทยุ เป็นได้แม้กระทั่งบัตรเครดิตและเดบิต รวมทั้งใช้เป็นบัตรประชาชนหรือใช้เป็นตั๋วรถไฟหรือรถโดยสารก็ได้อีก อินเตอร์เน็ตผิวหนังนี้ทีมงานเรียกว่า “ผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์” หรือ e-skin ให้ความสะดวกอย่างยิ่งหากนำออกไปใช้นอกสถานที่โดยไม่ต้องพกไว้ในกระเป๋าแต่ใช้วิธีแปะบนผิวหนังโดยไม่มีวันหลุด
พลาสติกที่ใช้มีหน้าตาคล้ายพลาสติกห่ออาหารทว่าเหนียวกว่า จอภาพที่ใช้สามารถทำงานได้นานหลายวันโดยไม่เสื่อมหรือลดคุณภาพลง ใช้สักระยะหนึ่งจึงค่อยเปลี่ยนทั้งชิ้น เชื่อว่าอีกไม่นานจะสามารถพัฒนาให้คงทนใช่ได้โดยตลอด ระบบอินเตอร์เน็ตผิวหนังที่ว่านี้ระยะแรกใช้ทำหน้าที่วัดดัชนีต่างๆของร่างกายเป็นต้นว่าความดันโลหิต จังหวะเต้นของหัวใจ ปริมาณอ็อกซิเจนในเลือด ระยะต่อไปสามารถพัฒนาให้วัดค่าต่างๆในเลือดคล้ายเป็นห้องแล็บเคลื่อนที่ วัดได้ทั้งน้ำตาล ไขมัน โปรตีนในเลือด เหมาะสำหรับการใช้ในโรงพยาบาลหรือใช้กับผู้ป่วย นอกจากนี้ยังใช้ได้กับนักกีฬาที่อยู่ระหว่างการฝึกฝน โดยใช้ตรวจคลื่นหัวใจ จังหวะเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต การทำงานของปอด ระบบจอภาพที่พัฒนาขึ้นในระยะแรกยังไม่มีอะไรซับซ้อน โดยต่อไปจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทำให้สามารถส่งข้อมูลไปยังแพทย์ประจำตัวหรือโรงพยาบาลได้ ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถใช้เป็นสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งจอภาพสารพัดประโยชน์ ทั้งเขียนทั้งอ่านได้บนผิวหนัง ใช้เป็นทีวีดูภาพยนตร์หรือใช้อินเตอร์เน็ตดูรายการถ่ายทอดสดต่างๆ มั่นใจว่าจะสามารถพัฒนาไปได้ถึงระดับนั้น ชีวิตอนาคตทุกอย่างจะสะดวกง่ายดายทุกอย่างจะอยู่บนผิวหนังของเราเอง ใครจะไปเชื่อ