ย้อนกลับไปใน ค.ศ.1187 ดินแดนที่เป็นประเทศซีเรียและอิสราเอลวันนี้คือแผ่นดินที่ชาวตะวันตกเรียกว่าเลแวนท์ ชาวอาหรับเรียกว่าชาม นักรบครูเสดที่มาจากยุโรป (Crusaders) เข้ามาปกครอง เดิมก่อนหน้านี้พื้นที่นี้คือส่วนหนึ่งของอาณาจักรอิสลามทว่าสูญเสียให้กับกองทัพครูเสดจากยุโรปในสงครามครูเสดครั้งที่ 1 ค.ศ.1099 ทัพครูเสดปกครองเยรูซาเล็มเกือบร้อยปี จนกระทั่ง ค.ศ.1187 แม่ทัพเรืองนามชาวอาหรับชื่อ “#ศอลาฮุดดิน” (#Salahuddin) หรือซาลาดิน (#Saladin) เข้ามาปลดปล่อยเยรูซาเล็มตอนปลาย ค.ศ.1187 โดยก่อนหน้าการปลดปล่อยเยรูซาเล็ม เกิดการรบระหว่างศอลาฮุดดินและทัพอาหรับกับทัพครูเสดที่นับเป็นหนึ่งในการศึกที่สร้างชื่อเสียงให้ศอลาฮุดดินมากที่สุด การศึกครั้งนั้นเกิดในวันที่ 3 กรกฎาคม ค.ศ.1187 บริเวณที่เรียกว่าจงอยฮัตติน (Horn of Hattin) ปัจจุบันอยู่ใกล้เขตทะเลสาปกาลิลลี ประเทศอิสราเอล สงครามครั้งนั้นมีชื่อว่า #การศึกแห่งฮัตติน (#Battle of Hattin) นับถึงวันนี้ผ่านมา 833 ปีพอดิบพอดีชัยชนะของศอลาฮุดดิน สุลต่านแห่งราชวงศ์อัยยูบี ครั้งนั้นนำไปสู่ชัยชนะของกองทัพอาหรับต่อกองทัพครูเสดที่เยรูซาเล็มทำให้นครแห่งนี้กลับสู่อ้อมอกของมุสลิมอีกครั้งหนึ่ง ทว่าได้ปลุกกระแสขึ้นในยุโรปนำไปสู่สงครามครูเสดครั้งที่สามที่ทัพจากยุโรปประกอบด้วยกษัตริย์ถึงสามพระองค์หนึ่งในนั้นคือ #พระเจ้าริชาร์ดใจสิงห์ เป็นยุคที่กองทัพครูเสดแข็งแกร่งที่สุดเผชิญหน้ากับกองทัพมุสลิมที่เข้มแข็งที่สุดเช่นเดียวกัน ครูเสดครั้งที่สามจึงสร้างชื่อเสียงให้กับทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก ทั้งหมดเริ่มจากการศึกในวันที 3 กรกฎาคม ค.ศ.1187 นี่เองใครที่ชมชอบภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด มีภาพยนตร์อยู่เรื่องหนึ่งชื่อ #Kingdom of Heaven (มหาศึกกู้แผ่นดิน) ออกฉายใน ค.ศ.2005 สร้างโดยผู้กำกับมือทอง Ridley Scott ดารานำคือ Orlando Bloom ภาพยนตร์เรื่องนี้นำภาพประวัติศาสตร์ของการศึกแห่งฮัตตินมานำเสนอ จำลองภาพจากกลาง ค.ศ.1187 ไปจนปลายปีนั้นที่กองทัพครูเสดจำต้องยอมสละเยรูซาเล็มให้กับกองทัพของศอลาฮุดดิน ทิ้งภาพไว้ให้รู้สึกถึงการศึกครั้งใหญ่ระหว่างกองทัพครูเสดกับกองทัพมุสลิมในมหาสงครามครั้งใหม่คือสงครามครูเสดครั้งที่สามที่กำลังจะตามมาคนที่รักเรื่องราวประวัติศาสตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตะวันออกกลางที่สื่อตะวันตกพยายามแสดงภาพให้เห็นว่าชาวอาหรับคือผู้ร้าย หากย้อนกลับไปดูเรื่องราวของศอลาฮุดดิน แม้แต่ชาวครูเสดเองยังยกย่องถึงความเป็นสุภาพบุรุษที่นำกฎการทำศึกแห่งอิสลามมาใช้อย่างครบถ้วน นั่นคือการให้เกียรติต่อศัตรู ละเว้นสตรี เด็ก คนชรา เมตตาต่อเชลยศึก ศอลาฮุดดินเป็นชาวอาหรับเคิร์ดเกิดในยุคที่คนทั่วไปเข้าใจว่าคือยุคทองของอาหรับในราชวงศ์อับบาสิยะฮฺ มีนครหลวงอยู่ที่แบกแดด หากศึกษาลึกลงไปจึงรู้ว่าอาณาจักรอาหรับเวลานั้นแตกเป็นอาณาจักรย่อยมากมาย ศูนย์รวมอำนาจเวลานั้นมิได้อยู่ที่แบกแดดอีกต่อไป แบกแดดที่ถูกทำลายโดยทัพมองโกล (ฮูลากูข่าน) ในเวลาต่อมา ค.ศ.1258 จึงเป็นเพียงส่วนเสี้ยวดียวของอาณาจักรอิสลาม ขณะที่ศูนย์กลางอำนาจย้ายมาอยู่ที่อิยิปต์ซึ่งเข้มแข็งขึ้นมากนับตั้งแต่ยุคของศอลาฮุดดิน หากสนใจเรื่องศึกแห่งฮัตตินลองนำเอาภาพยนตร์เรื่อง Kingdom of Heaven มาดู #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน