ไอเอฟหรือการอดอาหารแบบไม่ต่อเนื่องหรืออดเป็นช่วง (Intermittent Fasting, IF) เขียนถึงหลายครั้งแล้ว ทว่าหลายปีมานี้ผู้คนยังพูดถึงไอเอฟกันบ่อย โดยยอมรับกันว่าเป็นแนวทางการกินการอดเพื่อสุขภาพที่ค่อนข้างได้ผลและได้รับความนิยมมาก ไม่ก่อปัญหาต่อสุขภาพ ช่วยให้จิตใจดีขึ้น ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้กลไกเมแทบอลิซึมในร่างกายปรับตัวดีขึ้น หากจะว่าไป การปฏิบัติไอเอฟเป็นแนวทางที่พัฒนาขึ้นมาจากการถือศีลอดแบบอิสลามในเดือนรอมฎอน เพิ่มเติมด้วยว่าการอดอาหารแบบ 5:2 diet หรือไอเอฟสองวันต่อสัปดาห์เป็นแนวทางอดอาหารแบบอิสลามเช่นเดียวกัน โดยเป็นแบบที่เรียกว่าถือศีลอดสุนนะฮฺ ทุกจันทร์และพฤหัสบดีก่อนเริ่มเข้าโปรแกรมไอเอฟ มีเคล็ดทั้งลับและไม่ลับที่ควรรู้ เป็นต้นว่า ควรเริ่มด้วยการทำความเข้าใจพฤติกรรมตนเองกันให้ได้ก่อนว่าปฏิบัติได้หรือไม่ บางคนร่างกายและจิตใจตอบโต้ด้วยการกินมากขึ้นในวันถัดจากไอเอฟ แทนที่จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น อาจอ้วนขึ้นไปอีก ใครมีปัญหาเช่นนี้ ให้ใช้วิธีลดอาหารให้พลังงานต่อวันลงแทนการทำไอเอฟจะดีกว่า เมื่อมั่นใจว่าร่างกายสามารถปฏิบัติไอเอฟได้ กำหนดให้แน่นอนไปเลยว่าจะใช้ไอเอฟแนวทางไหน ที่นิยมคือ 16:8 ไอเอฟ ภายใน 24 ชั่วโมง อดอาหาร 16 ชั่วโมง เปิดช่วงเวลากิน 8 ชั่วโมง แนวทางที่ใช้กันมากที่สุดคือช่วงเวลากินเริ่มจาก 7 โมงเช้าสิ้นสุดที่บ่าย 3 โมง จากนั้นอดอาหารจนถึง 7 โมงเช้า ช่วงที่อด สามารถดื่มน้ำเปล่าได้ แนะนำให้ดื่มให้มากเข้าไว้ โดยอนุญาตให้ดื่มกาแฟ ชา เครื่องดื่มที่ไม่เติมน้ำตาลและนมเหตุใดควรอดอาหาร 16 ชั่วโมง นักชีวเคมีโภชนาการพบว่าไอเอฟที่อดนาน 16 ชั่วโมงขึ้นไปก่อนเริ่มกินอีกครั้งหนึ่งนั้น กลไกร่างกายจะถูกกดดันให้เข้าสู่โหมดการดึงไขมันที่สะสมไว้ออกมาใช้ เป็นเพราะเหตุนี้การควบคุมการกินการอดด้วยแนวทางไอเอฟจึงช่วยน้ำหนักตัวลดลงได้ ขอเพียงอย่าเผลอกินอาหารให้พลังงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำตาลมากเกินไปก็แล้วกัน สำคัญคือช่วงกินอาหารแนะนำให้เลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นต้นว่า ผักผลไม้ที่สะอาดในปริมาณมาก ข้าวกล้อง ข้าวหรือแป้งขัดสีต่ำ เลี่ยงไขมันสัตว์ที่มองเห็น เลี่ยงแป้งและข้าวขัดสีสูง งดบรรดาเนื้อแปรรูป เลือกไขมันดี อย่างเช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ลดอาหารเค็ม แนะนำด้วยว่าควรเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาลสูง งดน้ำผลไม้รสหวาน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การปฏิบัติไอเอฟไม่จำเป็นต้องทำทุกวัน จะทำวันเว้นวันก็ได้ หรือทำแบบ 5:2 diet ก็ดี นั่นคือทำไอเอฟสองวันในหนึ่งสัปดาห์ สิ่งหนึ่งที่แนะนำกันมากในระยะหลังคือกรณีต้องการทำไอเอฟเพื่อลดน้ำหนักตัว แนะนำว่าวันที่ปฏิบัติไอเอฟ ลดพลังงานที่ได้รับลงโดยตัดพลังงานให้ได้ถึงร้อยละ 30-40 ของที่เคยได้รับตามปกติ เรื่องการตัดพลังงานนี้ ไม่ต้องห่วงว่าจะปฏิบัติยาก มีรายงานว่าผู้ที่ปฏิบัติไอเอฟบ่อยๆจะชินกับการกินอาหารน้อยลงไปได้เอง #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #ไอเอฟ, #intermittentfasting
