เด็กๆในมัสยิดเล็กๆเมือง Kendal, Indonesia

สมัยผมเป็นเด็ก คุณพ่อเคยบอกว่าคนเก่าแก่ในชุมชนมัสยิดยะวารอบบ้านย่านถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ ที่คุณพ่อเคยคุยด้วยภาษายะหวาส่วนใหญ่เป็นชาวยะหวาหรือชวามีพื้นเพมาจากเมืองเซอมารัง (Semarang) ฟังแล้วก็จดจำไว้ เมื่อญาติของคุณพ่อจากอินโดนีเซียแวะมาเยี่ยมประเทศไทย ญาติบอกเองว่าพื้นเพคนแถบบ้านผมมาจากเมือง เกนดัล (Kendal) ใกล้ๆเซอมารัง ผมก็จดจำไว้อีก เมื่อมีโอกาสไปเมืองโซโลในชวากลางเที่ยวนี้ วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ผมจึงถือโอกาสเดินทางไปเมืองเซอมารังและเกนดัลชนิดไม่ยอมพลาดเซอมารังเป็นเมืองหลวงและเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของจังหวัดชวากลางมีประชากรกว่า 3.5 ล้านคน ใหญ่กว่าเมืองโซโลที่ผมไปประชุมมาก อยู่ห่างจากโซโลขึ้นไปทางเหนือ 104 กิโลเมตร ส่วนเกนดัลเป็นเมืองขนาดกลางขึ้นเหนือไปอีกห่างจากเซอมารัง 37 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่เรียกว่า Kendal Regency มีประชากร 9 แสนคน ซึ่งยังใหญ่กว่าเมืองโซโลที่มีประชากร 5-6 แสนคนแต่เจริญน้อยกว่า อินโดนีเซียมีประชากรเกือบ 280 ล้านคน แต่ละเมืองจึงไม่เล็กเหมือนบ้านเราเกนดัลเป็นเมืองที่มีความเป็นชวาหรือยะหวาค่อนข้างสูง บ้านเมืองเป็นสไตล์เก่า แต่ทุกเมืองในเกาะชวาเวลานี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งโซโล เซอมารัง เกนดัล มีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคเต็มไปหมด มีถนนใหม่ๆตัดขึ้นเยอะแยะ ต่อไปอีกไม่นานเชื่อว่าจะเจริญอย่างรวดเร็วพอๆกับบ้านเราทีมผมไปเกนดัลด้วยรถครอบครัว Toyota Innova 7 ที่นั่งซึ่งเป็นของคนไทยที่เรียนหนังสือและทำงานที่นั่น มีนักศึกษาสาวไทยจาก Universitas Muhammadiyah Solo (UMS) 2 คนคือนูรอจากยะลาและฮูรอยดาจากปัตตานีติดรถไปด้วย คนขับรถคนไทยกับน้องชายอีก 2 คน รวมทีมผม 3 คนเป็น 8 คน ออกจากโซโล เราใช้มอเตอร์เวย์ตรงไปเซอมารัง ค่อนข้างสะดวก ผมมีคิวแวะไปบรรยายที่ Universitas Muhammadiyah Semarang (UNIMUS) และตรวจสุขภาพจากนั้นช่วงสี่โมงเย็นจึงออกไปเมืองเกนดัลซึ่งไม่ไกลนัก ขับชมชมเมืองไปรอบๆพอให้ได้รับบรรยากาศก่อนจะไปหาร้านกาแฟเพื่อแวะหาข้าวเย็นรับประทานกันเนื่องจากเย็นมากแล้ว ทั้งเมืองเกนดัลมีร้านกาแฟดีๆอยู่ร้านเดียวชื่อร้าน Winmuch ห่างออกไปทางนอกเมืองไปที่เมืองไหน ผมต้องหาโอกาสเดินออกกำลังกายหมื่นก้าวพร้อมชมเมืองไปด้วย เมืองเกนดัลมีมัสยิดเล็กๆเต็มไปหมด ทั้งอินโดนีเซียมีมัสยิด 8 แสนแห่ง เฉลี่ยคือมีมัสยิด 1 แห่งต่อประชากร 350 คน เมืองเกนดัลจึงน่าจะมีมัสยิดประมาณ 2,500 แห่ง รอบร้านกาแฟที่พวกเราไปนั่งกันมีมัสยิดมากกว่า 10 แห่งเข้าไปแล้ว ยามเย็นใกล้เวลามัฆริบช่วงละหมาดยามโพล้เพล้เวลา 17.30 น. ผมเดินเข้าไปในชุมชนเล็กๆลึกจากถนนหลักซึ่งก็เป็นถนนเล็ก เจอมัสยิดเล็กๆจึงกลับมาชวนทีมงานเข้าไปละหมาดกัน ได้ชมบรรยากาศชาวบ้านเป็นอีกแบบหนึ่ง ที่มัสยิดมีเด็กๆมาเล่นและรอละหมาดกันเจี๊ยวจ๊าวไปหมด ทราบจากชาวบ้านว่าเด็กๆจะมาเล่นที่ลานเล็กหน้ามัสยิดทุกวันก่อนร่วมละหมาดกับผู้ใหญ่ พวกเราได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านดีมาก คนอินโดนีเซียมีนิสัยใจคอคล้ายคนไทยคือโอภาปราศรัย น้ำใจดี อบอุ่น คุยกับชาวบ้าน ร่วมละหมาด มืดค่ำมากแล้วเราจึงเดินทางกลับเมืองโซโล #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #kendalregency, #semarang

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *