“อินเดีย” ในทัศนะของวินัย ดะห์ลัน

ค่ำวันคริสต์มาสอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 ผมได้รับเชิญจากสมาคมนักศึกษาเก่ามหาวิทยาลัยมุสลิมอาลีการ์แห่งประเทศไทยให้บรรยายเรื่อง “อินเดียในทัศนะของวินัย ดะห์ลัน” ณ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยโดยทางนายกสมาคม ผศ.ดร.ศราวุฒิ อารีย์ บอกผมว่าขอเวลาเพียง 15 นาทีแม้ไม่นานนัก ทว่าผู้ฟังคือบรรดานักศึกษาเก่าซึ่งรู้จักอินเดียมากกว่าผม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในแวดวงสังคม ผมจะไม่ประหม่าเลยก็ดูกระไรอยู่ผมเคยไปอินเดียสองสามครั้ง เคยร่วมคณะของนายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไปประชุมองค์การ BIMSTEC เมื่อ พ.ศ.2551 มหาวิทยาลัยมุสลิมอาลีการ์ (Aligarh Muslim University หรือ AMU) ผมก็เคยไปมาแล้ว อินเดียสำหรับผมคือประเทศที่น่าฉงนฉงาย มีความรุ่งเรืองมานาน การขุดค้นทางโบราณคดีใน ค.ศ.2016 พบด้วยซ้ำว่าอารยธรรมอินเดียเก่าแก่กว่าอารยธรรมอิยิปต์โดยมีอายุมากถึง 8,000 ปีไม่ใช่ 5,500 ปีดังที่เคยเชื่อกันมาก่อน เมื่อครั้งอยู่ในยุโรป เพื่อนจากศรีลังกาและอินเดียเคยบอกผมว่าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศของเขาคือการได้เป็นอาณานิคมของอังกฤษ นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว มาวันนี้ทัศนคติของคนอินเดียต่ออังกฤษเปลี่ยนไปมาก อินเดียถูกอังกฤษปกครองนาน 200 ปี เมื่ออังกฤษปลดปล่อยอินเดียและปากีสถานใน ค.ศ.1947 ระบบการศึกษาของอินเดียที่อังกฤษวางไว้ กล่าวถึงข้อดีของการเป็นอาณานิคมของอังกฤษมากมาย คนอินเดียยุคใหม่ในโลกดิจิตอลวันนี้กำลังพูดกันถึงสิ่งที่อังกฤษทำไว้กับอินเดียระหว่างการปกครองอินเดียไม่ว่าจะเรื่องคนอินเดียกว่าร้อยล้านคนที่เสียชีวิต ทรัพย์สิน 45 ล้านล้านปอนด์สเตอริงที่อังกฤษยึดไปเป็นของตนเอง งานวิจัยของนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่าง Utsa Patnaik อธิบายวิธีการแยบยลที่อังกฤษยึดทรัพย์สินโดยทำให้คนอินเดียเข้าใจว่านั่นคือทรัพย์สินของอังกฤษที่มอบให้อินเดีย ก่อนการยึดครองของอังกฤษ อินเดียร่ำรวยด้วยสินทรัพย์สูงถึง 30% ของ GDP โลกเวลานั้น เมื่อกลับมาเป็นเอกราช อินเดียเหลือสินทรัพย์เพียง 2% ของ GDP โลก มีผู้รู้หนังสือเพียง 13% ของประชากร ขณะที่อังกฤษร่ำรวยมหาศาลด้วยสินทรัพย์ที่ยึดไปจากอินเดียงานวิจัยกล่าวด้วยว่าทั้งสินทรัพย์ (Asset) และทรัพย์สิน (Property) ของอินเดีย ทำให้อังกฤษสามารถขยายจักรวรรดิในแคนาดา ออสเตรเลีย อัฟริกา ใช้เงินทองทำสงครามชนะจีนได้ด้วยซ้ำ คนอินเดียยุคใหม่จึงออกอาการลิงโลดในเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมาเมื่อ GDP ของอินเดียแซงหน้าอังกฤษก้าวขึ้นเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับห้าของโลกจนได้ มาถึงวันนี้อินเดียกำลังฝันถึงอนาคตที่จะก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับหนึ่งหรือสองของโลกที่เขาเชื่อว่าครั้งหนึ่งในอดีตก่อนการยึดครองของอังกฤษเขาเคยอยู่ในตำแหน่งนั้นมาแล้ว #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #อินเดียในทัศนะของวินัยดะห์ลัน, #มหาวิทยาลัยอาลีการ์, #ศราวุฒิอารีย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *