หลังจากใช้ชีวิตกรำศึกมาโดยตลอด อัลมันซูรถึงแก่อนิจกรรมใน ค.ศ.1002 การจากไปของอัลมันซูรที่ใช้กำปั้นเหล็กควบคุมแผ่นดินอันดาลุส เป็นผลให้กองทัพมุสลิมแตกออกเป็นสามส่วน คือทัพอาหรับ ทัพทหารรับจ้างเบอร์เบอร์ และทัพสลาฟจากบอลข่าน หันกลับมาทำศึกกันเองบ้าง ทำศึกกับทัพคริสเตียนบ้าง ประชากรส่วนใหญ่ของอันดาลุสเวลานี้กลายเป็นชนเบอร์เบอร์ซึ่งชาวยุโรปเรียกว่ามัวส์ (Moors) บุตรชายของอัลมันซูรคืออัลมุซัฟฟารฺ (Al Muzaffar) ยังคงนำทัพซึ่งส่วนใหญ่คือทหารเบอร์เบอร์ทำศึกกับคริสเตียนโดยตลอด เมื่ออัลมุซัฟฟารฺเสียชีวิตใน ค.ศ.1008 อับดุลเราะฮฺมาน บุตรชายอีกคนหนึ่งของอัลมันซูรกลายเป็นผู้นำทัพต่อ ช่วงเวลานี้เอง ที่โมฮัมเหม็ดที่ 2 ราชนัดดาของคอลีฟะฮฺอับดุลเราะฮฺมานที่ 3 นำทัพอาหรับปลดคอลีฟะฮฺฮิชัมที่ 2 ออกจากตำแหน่ง พร้อมกับทำลายวังของอัลมันซูรที่อัลมาดินะฮฺ อัลซาฮิรา ก่อนสถาปนาตนเองขึ้นเป็นคอลีฟะฮฺ พระนามว่าโมฮัมเหม็ดที่ 2 อัลมะฮฺดี (Mohammed II al-Mahdi) สถานการณ์ในอัลอันดาลุสเต็มไปด้วยความวุ่นวายต่อเนื่องไปอีก 23 ปี บรรดาไทฟาหรือเมืองที่มีทหารเบอร์เบอร์เป็นผู้ดูแลมากกว่ายี่สิบเมืองพากันประกาศเป็นอิสระ ขณะที่คอลีฟะฮฺดำเนินการขับชนเบอร์เบอร์ออกจากคอร์โดบาจนหมด ใน ค.ศ.1009 ทหารเบอร์เบอร์ชักชวนทัพคริสเตียนแห่งคาสติลที่นำโดยเคาต์แห่งซานโชการ์เซีย (Count Sancho Garcia) ร่วมกันโจมตีเมืองคอร์โดบากระทั่งได้ชัยชนะต่อทัพอาหรับ จัดการปลดคอลีฟะฮฺโดยยกสุลัยมานอัลมุสเตน (Sulayman al-Mustain) ซึ่งเป็นราชนัดดาอีกองค์หนึ่งของคอลีฟะฮฺอับดุลเราะฮฺมานที่ 3 ขึ้นเป็นคอลีฟะฮฺโมฮัมเหม็ดที่ 2 ยังไม่ยอมแพ้ นำทัพที่สนับสนุนโดยชนสลาฟภายใต้การนำของนายพลวาดิฮฺ (Wadih) เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับรามอน บอร์เรลล์ (Ramon Borrell) เคาต์แห่งบาร์เซโลนาและเออร์เกล (Urgel) นำทัพคะตะลันโจมตีคอร์โดบาแม้ได้ชัยชนะทว่านายพลวาดิฮฺกลับยกตำแหน่งคอลีฟะฮฺให้กับฮิชัมที่ 2 ส่วนโมฮัมเหม็ดที่ 2 ถูกสังหาร ถึง ค.ศ.1012 สุลัยมานที่ 2 นำทัพเบอร์เบอร์กลับมายึดคอร์โดบาคืน ชาวยิวถูกขับออกจากเมือง มุสลิมอาหรับและเบอร์เบอร์จำนวนไม่น้อยถูกสังหาร ฮิชัมที่ 2 ซึ่งเป็นเพียงคอลีฟะฮฺหุ่นเชิด ถูกถอดออกจากตำแหน่งและถูกสังหารใน ค.ศ.2013 สุดท้ายสุลัยมานที่ 2 เองกลับไม่รอด ถูกถอดออกจากตำแหน่งโดยแม่ทัพเบอร์เบอร์ก้าวขึ้นเป็นผู้ปกครองคอร์โดบาแทนในช่วงเวลาสั้นๆ สุลัยมานที่ 2 ยังคงรอดชีวิตอยู่จนถึง ค.ศ.1015 จึงถูกสังหาร ช่วงเวลานี้คนนอกราชวงศ์อุมัยยะฮฺประกาศตนเป็นคอลีฟะฮฺ ก่อนถูกคนในราชวงศ์อุมัยยะฮฺยึดตำแหน่งคืนใน ค.ศ.1021 สถานการณ์ยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน มีคอลีฟะฮฺจากราชวงศ์อุมัยยะฮฺสลับกันเข้ามาปกครอง กระทั่งถึง ค.ศ.1031 ราชวงศ์อุมัยยะฮฺจึงถึงคราล่มสลาย ฮิชัมที่ 3 ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคอลีฟะฮฺใน ค.ศ.1027 กลายเป็นคอลีฟะฮฺองค์สุดท้ายของราชวงศ์โดยหายสาบสูญไปในช่วงเหตุการณ์ไม่สงบใน ค.ศ.1031 นั่นเอง อันดาลุสเวลานั้น ตำแหน่งคอลีฟะฮฺสิ้นสลาย บ้านเมืองเต็มไปด้วยรัฐไทฟาชนิดที่หาผู้ปกครองอาณาจักรตัวจริงไม่ได้แล้ว #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #มุสลิมสเปน
