ก็อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นว่าพักหลังมีข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับประโยชน์ของอบเชยต่อสุขภาพออกมาให้เห็นกันบ่อยขึ้น ชิ้นที่โด่งดังที่สุดมีผู้นำมาอ้างอิงกันบ่อยที่สุด เกิดขึ้นเมื่อปี 2003 ตีพิมพ์ในวารสาร Diabetes Care ซึ่งเป็นวารสารของสมาคมเบาหวานอเมริกัน งานชิ้นที่ว่านี้เป็นงานวิจัยเรื่องอบเชยกับเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ทำกันในประเทศปากีสถานแต่ผู้นำเสนอคือ ดร.ริชาร์ด แอนเดอร์สัน (Richard A. Anderson) จากสถาบัน the Beltsville Human Nutrition Research Center (BHNRC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา
ดร.แอนเดอร์สันเป็นเพียงหัวหน้าทีมและเจ้าของเงินเท่านั้น ส่วนคนที่ลงมือทำวิจัยตัวจริงคือ ดร.อะลัม คาน (Alam Khan) กับทีมงานแห่งภาควิชาโภชนาการในมนุษย์ NWFP Agricultural University เมืองเปชวาร์ ประเทศปากีสถาน วิธีทำวิจัยโดยนำผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ชาวปากีสถานจำนวน 60 คนมาแบ่งเป็น 6 กลุ่ม สามกลุ่มแรกได้รับการเสริมอบเชยแคปซูลปริมาณ 1, 3 และ 6 กรัมต่อวัน ส่วนอีกสามกลุ่มได้รับแคบซูลจำนวนเท่ากับสามกลุ่มแรกเพียงแต่ว่าเป็นยาหลอก (Placebo) ข้างในมีแต่แป้ง ทำการศึกษาโดยให้ผู้ป่วยรับประทานอบเชยแคปซูลนาน 40 วันหลังจากนั้น ทำการวิเคราะห์ผลได้ข้อสรุปออกมาว่าอบเชยไม่ว่าจะเป็น 1 กรัมหรือ 3 กรัมหรือ 6 กรัม ล้วนช่วยลดกลูโคส คอเลสเตอรอล แอลดีแอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ดีกว่าที่เคยคาดกันไว้ แถมไม่มีอันตรายอีกต่างหากเพราะอบเชยเป็นอาหารไม่ใช่ยา
โรคเบาหวานชนิดที่สองเป็นเบาหวานชนิดที่เกิดในผู้ใหญ่ เป็นผลมาจากเซลล์ในร่างกายดื้อต่อฮอร์โมนอินสุลิน น้ำตาลจากอาหารที่ผ่านเข้าไปในเลือดแทนที่จะผ่านเข้าเซลล์ได้กลับเกิดปัญหาคั่งค้างอยู่ภายนอกทำให้น้ำตาลค้างอยู่ในเลือด ระดับน้ำตาลจึงเพิ่มสูงขึ้น นอกจากจะมีปัญหาเรื่องน้ำตาลสูงในเลือดแล้ว ผู้ป่วยเบาหวานประเภทนี้มักมีปัญหาไขมันสูงในเลือดผสมโรงเข้าไปด้วย ที่เป็นอย่างนี้ก็เนื่องจากฮอร์โมนอินสุลินที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับเมแทบอลิซึมของน้ำตาลและไขมัน ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหากับน้ำตาลมันจึงมีผลพวงไปถึงไขมันด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรกลีเซอไรด์ ส่วนใครที่โชคร้ายหน่อยจะเจอปัญหาคอเลสเตอรอลสูงควบคู่ไปด้วยอีกต่างหาก
ผู้ที่เป็นเบาหวานมักเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนซึ่งมีอยู่หลายโรค ในบรรดาโรคแทรกซ้อนที่มากับเบาหวานที่ว่านี้ โรคหัวใจและหลอดเลือดที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากไขมันสูงในเลือดคือสาเหตุที่คร่าชีวิตผู้ป่วยเบาหวานมากที่สุด โดยคนที่เป็นเบาหวานมีโอกาสเสียชีวิตเพราะโรคหัวใจและหลอดเลือดมากกว่าคนปกติถึง 2-4 เท่า ใครที่เป็นเบาหวานแพทย์จึงไม่ลืมเตือนที่จะให้ระวังเรื่องไขมันสูงในเลือด ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะเจอปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นของแถมตามมาก็ได้ #Drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #อบเชย, #cinnamon
