แพทย์และนักโภชนาการรู้กันมานานว่าปัญหาใหญ่ทำให้ผู้คนสุขภาพไม่ดีคือบริโภคอาหารไม่ครบส่วน อาหารที่ขาดมากที่สุดคือผักและผลไม้ซึ่งเป็นแหล่งวิตามิน เกลือแร่ ใยอาหารและสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีจำนวนเป็นหมื่นชนิด สำรวจกันกี่ครั้งก็พบว่าคนทั่วไปบริโภคผักผลไม้ไม่ครบส่วน ไม่ใช่เพิ่งขาดทว่าขาดกันมาตั้งแต่เด็ก เนื่องจากเด็กไม่รักการกินผักผลไม้ ถึงผู้ปกครองจะสอน แต่เด็กมักไม่เลือก เทคนิคในการสอนเด็กให้เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ลองไปดูกันดีกว่าว่าในเยอรมัน เขาสอนให้เด็กเพิ่มการบริโภคผักและผลไม้กันอย่างไรเรื่องราวว่าด้วยกระบวนการสอนให้เด็กๆบริโภคผักผลไม้มากขึ้นนั้นทำกันเป็นเรื่องเป็นราวในรูปงานวิจัยที่สถาบันมักซ์พลังซ์เพื่อการพัฒนามนุษย์ (Max Planck Institute for Human Development) ตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี โดยทำร่วมกับทีมนักจิตวิทยาสุขภาพจากมหาวิทยาลัยมันไฮม์ (University of Mannheim) งานวิจัยตีพิมพ์ในวารสาร JAMA Network Open เดือนเมษายน ค.ศ.2023วิธีการคือใช้ผู้ปกครอง 50 คู่พร้อมเด็ก 50 คนร่วมในการศึกษา อายุเฉลี่ยของเด็กคือ 8 ขวบ อายุเฉลี่ยของผู้ปกครองคือ 43 ปี เด็กชายและเด็กหญิงเข้าร่วมในจำนวนเท่าๆ กัน ผู้เข้าร่วมได้รับอาหารมื้อค่ำตามแบบฉบับเยอรมันโดยมีขนมปังสไลซ์ เนื้อตัดเย็น และชีส รวมทั้งผักและผลไม้ที่หั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ ในการทดลองผู้ปกครองไม่บังคับให้ลูกๆกินหรือเลือกอาหาร เพียงกินอาหารกันตามปกติ โดยเฉลี่ยครอบครัวใช้เวลากินอาหารประมาณ 20 นาทีต่อครั้งในการทดลอง พบว่าเด็กกินผักและผลไม้มากขึ้น ด้วยวิธีง่ายๆนั่นคือทำให้เด็กอยู่ที่โต๊ะนานขึ้นอีกเพียง 10 นาที ปรากฏว่าโดยเฉลี่ยแล้วเด็กกินผักและผลไม้เพิ่มขึ้นประมาณ 100 กรัม หรือเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งในห้าส่วนที่แนะนำต่อวัน ปริมาณมากเท่ากับแอปเปิ้ลผลเล็กหรือพริกหยวกผลเล็ก ผักและผลไม้เพิ่มขึ้น 1 ส่วนต่อวันเช่นนี้ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ 6 ถึง 7 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้นมาก นักวิจัยสรุปอย่างนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเตรียมผักผลไม้ขนาดพอดีคำของเด็กวางไว้บนโต๊ะในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อให้เด็กหยิบกินได้งานการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ามื้ออาหารของครอบครัวที่ยาวนานขึ้นไม่ได้ทำให้เด็ก ๆ กินขนมปังหรือเนื้อเย็นมากขึ้น ทั้งไม่กินของหวานเพิ่มขึ้นอีก โดยเด็กมักเลือกผักผลไม้พอดีคำที่เตรียมไว้ นักจิตวิทยาตั้งข้อสันนิษฐานว่าผักและผลไม้ขนาดพอดีคำกินง่ายกว่าและดูน่ารับประทานกว่าจึงทำให้เด็กเลือก ผู้ใหญ่บ้านเรามีปัญหาในเรื่องนี้เหมือนกัน ลองนำไปทำดูกับลูกหลานที่อยู่ที่บ้าน อาจได้ผลดีก็ได้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #สอนเด็กกินผัก
