พักหลังมีงานวิจัยด้านโภชนาการที่น่าสนุกมานำเสนอกันบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโภชนาการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและรักษาโรคอ้วน (Obesity) ซึ่งเป็นปัญหาจากการสะสมไขมันในส่วนต่างๆของร่างกายมากเกินไปจนกระทั่งน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานที่กำหนด ผลที่ติดตามคือสารพัดโรคแทรกซ้อน เจอบ่อยคือเบาหวานประเภทที่สอง ตามมาจากโรคเบาหวานคือโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งสารพัดโรคเสื่อม ตั้งแต่อวัยวะเสื่อมทั้งกระดูก ข้อเข่า ตับ ไต ดวงตา ไปจนกระทั่งถึงสมอง มีข้อแนะนำสารพัดเพื่อลดโรคอ้วน ทั้งเมนูอาหาร ทั้งการออกกำลังกาย สารพัดทฤษฎีและคำอธิบายเพื่อช่วยลดน้ำหนักตัวและความอ้วน พักหลังยังมีนักจิตวิทยาเข้ามาร่วมกระบวนการลดน้ำหนักตัวกับเขาด้วย อย่างเช่นเรื่องที่จะนำเสนอนี้ เป็นงานวิจัยน่าสนใจจากทีมวิจัยทางโภชนาการและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคนซัส (University of Kansas) นำโดย ดร.เทอรา ฟาซซิโน (Tera L. Fazzino) ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Food เดือนกุมภาพันธ์ 2023 ลองไปดูกันดร.ฟาซซิโนกล่าวว่าโปรแกรมลดน้ำหนักมักมุ่งเน้นไปในเรื่องอาหารโปรตีนสูงบ้าง ใยอาหารสูงบ้าง คาร์โบไฮเดรตต่ำบ้าง พลังงานต่ำบ้าง บางครั้งก็เน้นไปที่การอดอาหารทั้งแบบอดแบบสิ้นเชิงและอดแบบไอเอฟ วนเวียนอยู่อย่างนั้น ลดน้ำหนักสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง บ่อยครั้งลืมประเด็นด้านจิตวิทยา งานวิจัยของ ดร.ฟาซซิโน จึงวางแผนงานวิจัยโดยเลือกเมนูอาหารสองแบบกับวิธีการกินอาหารอีกหนึ่งแบบ นั่นคืออาหารพลังงานสูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ อาหารทั้งสองแบบนี้ควบเข้ากับวิธีการกินอาหารเร็วและช้า รวมเป็นวิธีการสี่แบบ ทำการศึกษาว่าพฤติกรรมควบกับเมนูอาหารแบบไหนที่ทำให้กินอาหารได้มากหรือน้อยที่สุด ซึ่งรู้กันอยู่ว่าการกินมากนี่เองที่ทำให้เกิดโรคอ้วน แต่ทั้งสี่แบบนี้ยังไม่เพียงพอผู้วิจัยเพิ่มเติมอาหารอร่อยเกิน (Hyper-palatable foods) เข้าไปในเมนูทั้งสี่แบบด้วยสิ่งที่ทำให้อาหารอร่อยเกิน กระทั่งกินไม่ยอมหยุด ไม่เลิกกิน มักเป็นอาหารผ่านกระบวนการมากเกิน เติมเกลือ เติมไขมันอิ่มตัว อย่างเช่น มันฝรั่งแผ่น เกลือ ช็อกโกแลต ก็แล้วแต่จะเลือกเข้ามา ผลปรากฏว่าเมนูอาหารและวิธีการกิน ไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรตต่ำ พลังงานสูง กินเร็ว หรือกินช้า หากเติมอาหารอร่อยเกินเข้าไป ผลที่ตามมาคืออาสาสมัครกินอาหารมากขึ้นจนกระทั่งได้รับพลังงานเกิน ความอ้วนจึงมาจากเรื่องการกินมากเกินไป ในที่นี้คือการได้รับอาหารอร่อยเกินที่ถูกปากนี่แหละ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริโภคและนักโภชนาการจำเป็นต้องระวังให้มากคือบรรดาอาหารอร่อยเกินทั้งหลาย จึงต้องรู้จักบันยะบันยัง ไม่หลงระเริงไปกับอาหารอร่อยเกิน หักห้ามใจกันให้ได้ นักวิจัยแนะนำกันอย่างนั้น ง่ายๆแต่ปฏิบัติยาก จึงเป็นเรื่องของการฝึกใจ หยุดก่อนอิ่ม ทำให้ได้ งานวิจัยลักษณะนี้น่าสนใจและไม่ค่อยได้เห็นบ่อย #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #อาหารอร่อยเกิน, #hyperpalatablefood
