ย้อนอดีตกันสักหน่อยเรื่องอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในวันนี้ โดยเมื่อวันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2552 ท่านเคยเดินทางมาเยี่ยมศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาลที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อันวาร์ อิบราฮิม วันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลาค่ำ ตุน ดร.มหาธีร์ โมฮัมหมัด สาบานตนต่อพระพักตร์กษัตริย์มาเลเซียเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย ทำเอาโลกทั้งโลกช็อกไม่ใช่เพราะท่านอายุ 92 ปี แต่เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก จะแพ้การเลือกตั้งไปได้มากมายขนาดนั้น แสงจากสป็อตไลต์ทุกดวงจับไปที่ ดร.มหาธีร์อย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าในเงามืดที่แทบไม่มีใครสังเกตเห็นคือตะคุ่มของชายผู้หนึ่ง อันวาร์ อิบราฮิม นักการเมืองที่ถูกพิษการเมืองมาเลเซียเล่นงานจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ทั้งในยุคของ ดร.มหาธีร์เองและในยุคของนาจิบ ราซัก ติดคุกครั้งแรกไปแล้ว 9 ปีต้องติดคุกต่อในครั้งหลังอีก 6 ปี ถึงวันนี้ก็ยังอยู่ในคุก คนส่วนใหญ่ให้ความชื่นชม ดร.มหาธีร์ ผมเองก็ชื่นชมท่านในฐานะบุรุษเหล็กทางการเมืองมาเลเซียที่สร้างปรากฏการณ์ที่แทบไม่น่าเชื่อให้เกิดขึ้น แต่ในใจของผม บุคคลที่น่านิยมมากกว่าคืออันวาร์ อิบราฮิม ในอนาคตจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียต่อจาก ดร.มหาธีร์อย่างที่พูดกันหรือไม่ การเมืองมาเลเซียที่ไม่สะอาดสักเท่าไหร่ จึงยังไม่ควรเชื่อคำพูดใครมากนัก เอาเป็นว่าขอส่งกำลังใจไปให้อันวาร์ อิบราฮิม ก็แล้วกันเดือนกันยายน พ.ศ.2537 ผมเดินทางไปบรรยายในมาเลเซียครั้งแรก จำได้ไม่ลืมว่าปีนั้นอาจารย์และนักศึกษาในมาเลเซียคลั่งไคล้อันวาร์ อิบราฮิมกันมาก คุยเรื่องสุขภาพกันตามหัวข้อบรรยายไปสักพัก คนก็ขอให้วิจารณ์เรื่องอันวาร์ อิบราฮิมกันหน่อย ครั้งนั้นท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียที่คาดกันว่าจะได้ขึ้นเป็นผู้นำมาเลเซียแทน ดร.มหาธีร์ ความที่ท่านเป็นอดีตผู้นำนักศึกษาจากองค์กรที่เรียกว่าอาบิม นักศึกษาจึงมองท่านเป็นไอดอล ทว่าไม่นานท่านก็ถูกอัปเปหิทางการเมืองจากกรณีวิกฤติต้มยำกุ้งที่ระบาดไปจากประเทศไทยและจากข้อกล่าวหาอื่นๆอีกสารพัด จากนั้นท่านก็เดินขึ้นโรงขึ้นศาลเป็นว่าเล่นวันที่ 30 มีนาคม 2552 หลังจากทนทุกข์เก้าปีในคุกทางการเมือง อันวาร์ อิบราฮิม เดินทางมาเป็นแขกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในสถานที่ที่ท่านเข้าเยี่ยมชมพร้อมคุณสุทธิชัย หยุ่นและคุณไกรศักดิ์ ชุณหะวัน คือศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งยังได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน วันนั้นมีคุณศราวุธ ศรีวรรณยศ ร่วมเดินทางมาด้วย ผมมีโอกาสพูดคุยกับท่านสองสามเรื่อง จากที่เคยติดอารมณ์ชื่นชมมาก่อนหน้านั้นตั้งแต่ พ.ศ.2537 ความชื่นชมเพิ่มพูนมากขึ้น สะเทือนใจกับสภาพทางร่างกายของท่านซึ่งเดินได้ลำบาก ยิ่งเมื่อต้องขึ้นบันไดไปดูห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ของตึกเก่า ท่านกะย่องกะแย่งขึ้นไปได้ค่อนข้างยากจากอาการบาดเจ็บที่เป็นผลมาจากการถูกทรมานในคุกการเมืองมาเลเซีย แต่คนอย่างอันวาร์ อิบราฮิม ไม่เคยปริปากบ่น ทั้งไม่ยอมหลบหนีไปไหน ผ่านเก้าปีในคุกมาแล้ว เมื่อต้องเข้าคุกอีกหกปีในครั้งหลัง ท่านก็ก้าวเดินเข้าไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ชื่อเสียงศักดิ์ศรีเกียรติคุณที่เคยสะสมมามากถูกทำลายป่นปี้จนแทบไม่มีเหลือ แต่ท่านก็อดทนอย่างที่สุด ออกจากคุกครั้งหลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างที่กล่าวกันหรือไม่ ความที่รู้จักท่านมาพอสมควร ผมเชื่อคำพูดของท่านที่เคยบอกไว้กับผมใน พ.ศ.2552 นั่นคือ “ตะวักกัล” มอบให้เป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลาพระองค์เดียว