ฝันเฟื่องเรื่องรถไฟ

เพื่อนรุ่นพี่ที่เคารพท่านหนึ่งชวนให้ผมเขียนประสบการณ์ช่วงใช้ชีวิตในยุโรปให้พวกเราอ่าน ผมอาศัยอยู่ในยุโรปนานห้าปี เรียนและทำงานในเบลเยี่ยม ฝรั่งเศส เยอรมัน สวิตเซอร์แลนด์ เดินทางไปอังกฤษ สกอตแลนด์ สเปนและอีกหลายประเทศหลายครั้ง ทั้งยังเดินทางกลับไปอีกหลายหน เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้มากมาย ฟังคำร้องขอแล้วจึงอยากสนองศรัทธาสักหน่อย หากมีเวลาจะค่อยๆเขียน สิ่งที่ผมฝันถึงยุโรปอยู่บ่อยคือการจราจรด้วยระบบรางขอเรียกว่ารถไฟก็แล้วกันบรัสเซลส์ เบลเยี่ยมคือเมืองหลักที่ผมอาศัยอยู่ ประทับใจมากคือการจราจรระบบราง เดินทางในเมืองใช้รถรางเป็นหลัก อดีตเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม ข้อดีของรถรางคือตรงเวลา ทุกป้ายมีตารางเวลาติดไว้ บอกชัดเจนว่ารถมาถึงเมื่อไหร่ จอดตรงเวลาทุกครั้ง การเดินทางด้วยรถรางจึงสะดวกที่สุด รถรางเดินทางไปถึงแทบทุกจุดในเมือง ใช้รางกว้าง 1.006 เมตร นั่นเป็นช่วงที่ผมไปอยู่ครั้งแรกซึ่งยังไม่มีรถไฟฟ้า เมื่ออยู่ไปได้สองปีรถไฟฟ้าทั้งใต้ดิน บนดินและลอยฟ้า ความกว้างราง 1.453 เมตรก็มาถึง โดยรถรางก็ยังคงอยู่ไม่หายไปไหนผมรักการเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งซึ่งรถไฟมาตรฐานขนาดราง 1.453 เมตรมีเชื่อมต่อทั่วถึง เดินทางบ่อยที่สุดคือข้ามประเทศไปยังเนเธอร์แลนด์ เยอรมันและฝรั่งเศส ไปถึงสเปนยังได้ สมัยที่ผมอยู่ยังไม่มีรถไฟความเร็วสูง มีเฉพาะในฝรั่งเศสคือรถไฟเตเจเว (TGV) ครั้งทำงานในเยอรมันจึงได้อาศัยรถไฟในเยอรมันซึ่งเป็นระบบที่ดีมาก ทั้งรถไฟในเมืองที่เรียกว่าอูบาห์น (U Bahn) นอกเมืองที่เรียกว่าเอสบาห์น (S Bahn) นอกจากนี้ยังมีรถไฟระหว่างเมืองเดินทางไปถึงสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและอิตาลี ไม่นานนักรถไฟความเร็วสูงก็มา ช่วงหลังรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกันทุกเมืองในทวีปยุโรปรวมทั้งลอดทะเลไปถึงอังกฤษได้เห็นได้ใช้รถไฟในยุโรปช่วงนั้นบอกตามตรงรู้สึกน้อยใจประเทศไทยที่การรถไฟล้าหลังอย่างที่สุด มีคนล้อเลียนกันว่ารถไฟไทยถูกสต๊าฟไว้ตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5 ระบบรางยังเป็นขนาด 1.006 เมตร เป็นรางเดี่ยวล้าหลังที่ต้องรอหลีก กลับมาเมืองไทยแล้วนับสิบปี รถไฟก็ยังล้าหลังอยู่อย่างนั้น รถไฟเมืองไทยล้าหลังอาจเป็นเพราะการเมืองที่เกื้อหนุนการจราจรระบบถนนคล้ายรับทุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ยังไงยังงั้น บ้านเมืองเราหากไม่พัฒนาระบบรถไฟ ประสบการณ์ของผมบอกไว้ในวันนั้นว่าพัฒนาไปข้างหน้าได้ยากอย่างยิ่ง มาถึงวันนี้หายน้อยใจแล้ว เพราะอีกไม่นานประเทศเราจะมีรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ ระบบรางยังเป็น 1.006 เมตรไม่ใช่ปัญหา ยังสามารถทำความเร็วได้มากกว่ามาก สำคัญคือเริ่มมีรถไฟความเร็วสูงซึ่งจะผลักดันความเจริญไปได้อย่างก้าวกระโดด ทั้งยังมีรถไฟฟ้าใต้ดิน บนดิน ลอยฟ้าในกรุงเทพฯที่เป็นเมืองหลักเชื่อมโยงไปแทบทุกจุด เป็นระบบรางมาตรฐาน อีกไม่นานหลังจากนี้ขอให้เชื่อเถอะประเทศไทยจะพัฒนาไปมากชนิดเห็นหน้าเห็นหลัง ไม่อืดเป็นเรือเกลือเช่นในอดีต ผมเชื่อมั่นของผมอย่างนั้น #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *