ผลิตภัณฑ์มังสะวิรัติที่ปนเปื้อนผลผลิตจากสัตว์

ผมเพิ่งกลับจากอังกฤษ ไปมาหลายเมืองส่วนใหญ่เป็นเมืองเล็กๆ อังกฤษที่ได้ไปเห็นเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเมื่อเทียบกับครั้งก่อนที่ได้สัมผัสมา ว่ากันว่าบรรยากาศ Brexit เรื่องที่อังกฤษต้องถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปเป็นผลให้คนอังกฤษที่เป็นอังกฤษแท้ๆเริ่มทำตัวโดดเดี่ยวแยกออกจากส่วนอื่นของยุโรปและจากเมืองใหญ่ในอังกฤษเอง คนอังกฤษออกไปรวมตัวกันในชนบทมากขึ้น ทิ้งเมืองใหญ่ไว้ให้คนอังกฤษสารพันเชื้อสายดูแล ขณะเดียวกันความเชื่อในจิตใจของคนอังกฤษเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทั้งเป็นบวกและลบ มีคนกินมังสะวิรัติมากขึ้นในกลุ่มที่เรียกว่าวีแกน (Vegan) หรือมังสะวิรัติแบบเคร่ง ในทางกลับกันมีคนไม่นับถือศาสนาเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน

ในขณะที่กลุ่มไม่นับถือศาสนา (Atheist) มีลักษณะต่างคนต่างอยู่ กลุ่มวีแกนกลับสร้างเครือข่ายดูแลกันเอง อ่านเจอบทความของกลุ่มวีแกนเรื่องให้ระวังอาหาร 14 ชนิดที่อาจปนเนื้อสัตว์ที่ไม่คิดว่าจะปน เห็นว่าเป็นประโยชน์กับพวกเราจึงนำมาเผยแพร่ต่อ ได้แก่ (1) ขนมปัง หลายคนอาจเข้าใจว่าขนมปังเป็นผลผลิตจากแป้งที่ไม่มีการผลผลิตจากสัตว์เลย คงต้องทำความเข้าใจใหม่ เพราะขนมปังหลายชนิดจากโรงงานอุตสาหกรรมมักใส่สาร L-cysteine เร่งการนวดแป้งซึ่งสกัดได้จากขนสัตว์หรือแม้กระทั่งขนนก (2) เบียร์และไวน์ บางครั้งคนดื่มเหล้ากินเบียร์เรียกเครื่องดื่มของตนเองว่าน้ำมังสะวิรัติ เอาเข้าจริงไม่ใช่อย่างนั้น ไอซินกลาส (Isinglass) เป็นสารกลุ่มเจละตินได้มาจากกระเพาะปัสสาวะของปลาอย่างเช่นสเตอร์เจียน นอกจากนี้ยังอาจใช้ไข่ขาวเป็นสารช่วยใส

(3) ท็อฟฟี่ ลูกอมหลายชนิดหรือแม้กระทั่งหมากฝรั่งบางยี่ห้อเติมเจละตินจากสัตว์ลงไปด้วย นอกจากนี้ยังอาจใช้สีที่สกัดจากแมลง (4) น้ำสลัดซีซ่าผสมซอสที่ได้จากปลาอังโชวีให้รสชาติเค็ม (5) เจลล์-โอ (Jell-O) ได้มาจากเจละตินซึ่งเป็นโปรตีนจากสัตว์ ควรเลี่ยงไปใช้สารทดแทนจากสาหร่าย (6) มาร์ชเมลโลว์ (Marshmello) คนมักเข้าใจว่าทำจากพืชเอาเข้าจริงผสมเจละตินในแทบทุกยี่ห้อ (7) ครีมเทียม (non-dairy cream) เข้าใจว่าไม่ใช่นมสัตว์ ปรากฏว่าครีมเทียมหลายชนิดผสมเคซีนซึ่งเป็นโปรตีนจากนมลงไปด้วย (8) ผลิตภัณฑ์โอเมก้าสามได้มาจากปลาทะเล (9) ถั่วลิสง หลายผลิตภัณฑ์เติมเจละตินเพื่อช่วยให้เกลือและผงปรุงติดผนังถั่วได้ดีขึ้น (10) มันฝรั่งแผ่น (chips) มักผสมชีสหรือเนยแข็งที่ทำจากนมสัตว์ (11) น้ำตาลทราย (refined sugar) มักใช้กระดูกสัตว์เป็นแหล่งถ่านคาร์บอนในการฟอกสี

(12) รีฟรายด์บีนส์ (Refried beans) ถั่วกระป๋องใช้ในอาหารละตินและสเปนมีการผสมไขมันหมูชนิดเติมไฮโดรเจน (13) รสวานิลลาที่ผสมในอาหารต่างๆปกติทำจากเปลือกพืชแต่มีบางชนิดผสมคัสโตเรียม (castoreum) ซึ่งเป็นสารคัดหลั่งจากก้นสัตว์ประเภทบีเวอร์ลงไปด้วย (14) ซอสโวสเตอร์เชียร์ (Worcestershire sauce) หลายยี่ห้อผสมอังโชวีคล้ายน้ำปลาให้รสเค็มลงไปด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *