เมื่อเกินร้อยปีมาแล้ว ผู้คนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและอเมริกามองพืชผักเป็นเพียงอาหารไร้ประโยชน์ กินไปแล้วก็ถ่าย ไม่ให้พลังงาน ไม่ให้คุณค่าอะไรทั้งสิ้น มาถึงวันนี้รู้แล้วว่าพืชผักให้ใยอาหารที่สร้างคุณค่าสารพัด ให้ทั้งไฟโตนิวเทรียนท์ ให้ทั้งใยอาหาร รู้ด้วยว่าใยอาหารเป็นสารอาหารกลุ่มแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่ระบบย่อยอาหารในร่างกายทั้งส่วนที่เป็นกรดและด่างย่อยไม่ได้เป็นผลให้ให้สารอาหารกลุ่มนี้ถูกขับออกมาถึงลำไส้ใหญ่ จากนั้นบางส่วนจึงถูกย่อยด้วยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ บางส่วนเมื่อย่อยไม่ได้จึงถูกขับออกจากร่างกาย ทั้งส่วนที่แบคทีเรียย่อยได้และย่อยไม่ได้ช่วยทำให้การทำงานของระบบทางเดินอาหารเป็นปกติใยอาหารมีทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ กลุ่มละลายน้ำช่วยลดไขมันและน้ำตาลในเลือด กลุ่มไม่ละลายน้ำช่วยป้องกันระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้อุจจาระมีมวลมากขึ้น ใยอาหารยังช่วยในเรื่องการต่อสู้กับเบาหวาน โดยช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลทำให้หลังกินอาหารน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นช้า คนที่กินใยอาหารเป็นประจำเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานน้อยกว่าคนไม่ได้กินใยอาหารประมาณร้อยละ 27 นี่เป็นผลจากการศึกษาวิจัยในคนกว่า 15,000 คนอายุ 35-64 ปีนาน 7 ปีจากการศึกษาในคนกว่า 43,000 คนอายุ 40-75 ปีพบว่าการกินใยอาหารเพิ่มขึ้น 10 กรัมช่วยลดการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากถึงร้อยละ 40 ใยอาหารจึงช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดอย่างได้ผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของกล้ามเนื้อหัวใจตาย นอกจากนี้การศึกษาในหลายประเทศยังพบอีกว่าการเพิ่มการบริโภคใยอาหารทุก 7 กรัมจากที่แนะนำกันไว้ในทางโภชนาการช่วยลดปัญหาของสโตรก (Stroke) หรือสมองวายหรือหลอดเลือดสมองตีบหรือแตกได้ร้อยละ 7 อีกประโยชน์หนึ่งคือช่วยขจัดยีสต์และฟังกัสออกจากร่างกายจึงช่วยเสริมสุขภาพของผิวหนัง ทำให้ลดอาการของสิวและผื่นแดงที่เคยเป็นปัญหาที่สำคัญ ใยอาหารยังช่วยเรื่องควบคุมน้ำหนักโดยทำให้ได้รับพลังงานน้อยลง เมื่อกินใยอาหารมากขึ้น โดยช่วยลดการกินไขมัน น้ำตาล แป้งและโปรตีน จึงช่วยให้น้ำหนักตัวลดลง สุขภาพดีขึ้น ประโยชน์ของใยอาหารมากมายอย่างนี้ นักโภชนาการจึงแนะนำให้กินผักทุกวัน แนะนำง่ายๆว่าในจานข้าวควรมีข้าวกับข้าวครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งหนึ่งในจานให้เป็นผัก จะเป็นผักต้มผักสดได้ทั้งนั้น โดยแนะนำให้เลือกผักที่สะอาด ปลอดสารเคมี ใครหากอยากมีสุขภาพดี จึงควรกินผักมากขึ้น ว่ากันอย่างนั้น #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #ใยอาหาร, #พืชผัก
