งดอาหารเช้าเสี่ยงปัญหาสมองเสื่อม

คนยุคใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯมีสารพัดเหตุผลที่จะไม่กินอาหารเช้า ลดน้ำหนักตัวบ้าง ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้าบ้าง ตั้งใจมาหาอะไรเล็กๆน้อยๆกินที่ทำงานบ้างแต่ไม่ได้กิน และอีกหลายเหตุผล ทำให้ต้องใช้วิธีเลิกกินอาหารเช้า ทั้งพยายามคิดในแง่ดีว่าเป็นการลดน้ำหนักตัวหรือลดความอ้วนไปได้ในตัว แต่ภายหลังมีข่าวออกมาว่าคนไม่กินอาหารเช้าเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมรวมทั้งอัลไซเมอร์มากกว่าคนทั่วไป หลายคนจึงเริ่มห่วงตนเองว่าจะมีปัญหาอัลไซเมอร์ไปกะเขาด้วย เจอคำถามอยู่เป็นครั้งเป็นคราวว่าอาหารเช้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับอัลไซเมอร์ได้ยังไง ผู้ที่ออกมาให้คำตอบคือนายแพทย์พอล โกลด์ (Paul Gold) แห่งมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา โดยสรุปออกมาง่ายๆว่า อาหารเช้าช่วยให้สมองได้รับน้ำตาลซึ่งเป็นอาหารหลักของสมองทำให้กระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉง ช่วยให้สมองทำหน้าที่ด้านความจำระยะสั้นได้ดีขึ้น ทั้งร่างกายสร้างฮอร์โมนเซโรโทนิน (Serotonin) ที่ทำให้สมองทำงานฉับไว ไม่เฉื่อย จากงานวิจัยพบว่าเด็กที่กินอาหารเช้าจะสนใจเรียนมากกว่าเด็กที่ไม่ได้กินอาหารเช้า สุดท้ายคือเด็กที่กินอาหารเช้ามีผลการเรียนที่ดีกว่าเด็กที่ไม่กินอาหารเช้าคุณหมอโกลด์ให้ข้อมูลเชิงสรุปว่าการกินอาหารเช้าเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยระบุว่าการไม่กินอาหารเช้าสร้างปัญหาที่อาจนำไปสู่อัลไซเมอร์ได้สองประการ ประการแรก การไม่กินอาหารเช้าทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง น้ำตาลเป็นอาหารสำคัญของสมองอย่างที่บอก การที่ร่างกายขาดอาหารยาวนานมากกว่า 12 ชั่วโมงหรืออาจจะถึง 15 ชั่วโมง จากการไม่กินอาหารเช้า มีผลให้น้ำตาลที่ไปเลี้ยงสมองลดลง เซลล์ในสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำมักจะอยู่บริเวณส่วนปลายของสมองด้านนอก เซลล์พวกนี้ย่อมได้รับน้ำตาลน้อยลง หากงดเว้นอาหารเช้า การทำหน้าที่ด้านการเก็บความทรงจำย่อมเกิดปัญหา ปัญหาประการที่สองของการขาดอาหารเช้าคือ อาจสร้างปัญหาทำให้เกิดโรคกระเพาะ ทำให้บางคนต้องกินยาที่เข้าอะลูมิเนียม อย่างเช่นยาประเภทอะลัมมิลค์ กินยาประเภทนี้บ่อยเข้า ร่างกายได้รับอะลูมิเนียมบ่อยๆอาจก่อปัญหาอัลไซเมอร์ขึ้นได้เช่นกัน แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่ประเด็นใหญ่โต แต่ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการไม่กินอาหารเช้ากระทั่งกลายเป็นความเคยชินอาจก่อปัญหาอัลไซเมอร์ขึ้นได้ในทางใดทางหนึ่งโดยไม่รู้ตัว โดยสรุปคือแนะนำให้กินอาหารเช้า จะมื้อเล็กมื้อใหญ่ก็ขอให้กินไม่อยากให้งด ว่ากันอย่างนั้น#drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน, #อาหารเช้ากับสมองเสื่อม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *