เมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ววงการแพทย์และโภชนาการยืนยันว่าไขมันสัตว์คือปัญหาใหญ่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์รวมทั้งนมเกิดปัญหาตามกันไปหมด #เนย (#Butter) ที่มาจากนมเป็นปัญหาเช่นกัน ทว่ามาถึงวันนี้ #เนยกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดอาหารไปแล้ว องค์ประกอบของเนย 82% คือไขมัน เป็นน้ำ 16% ในส่วนไขมันเป็นไขมันอิ่มตัว 63% ไขมันโมโน 26% ไขมันไม่อิ่มตัวสูง 4% เมื่อศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดพบว่าในบรรดากรดไขมันอิ่มตัว 63% ในเนย 8-9% คือ #กรดไขมันขนาดกลาง ที่เรียกกันว่า #MCT ไขมันกลุ่มนี้ทำให้น้ำมันมะพร้าวที่เป็นผู้ร้ายในอดีตกลายเป็นพระเอกยุคใหม่มาแล้ว MCT เร่งการใช้พลังงานในร่างกาย แม้ส่งผ่านไปในกระแสเลือดโดยกลไกเดียวกับน้ำตาลกลูโคสทว่าไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอินสุลิน การบริโภค MCT ทำให้อิ่มได้เร็วช่วยลดน้ำหนักตัว ทั้งช่วยเร่งการใช้พลังงาน ทำให้อัตราเมแทบอลิกในระยะพักของร่างกายมีค่าสูงขึ้น ช่วยให้ร่างกายใช้พลังงานในระหว่างพักมากขึ้น จึงช่วยลดน้ำหนักตัวได้ค่อนข้างดี เนยช่วยเพิ่มไขมันชนิดที่ดีคือ HDL ในเลือด ทั้งช่วยป้องกันไขมันตัวร้ายคือ LDL ไม่ให้เปลี่ยนเป็นไขมันตัวที่ร้ายมากขึ้นได้แก่ LDL ขนาดเล็ก นอกจากนี้ MCT ยังให้ประโยชน์ทางด้านอื่น ดังเช่น ช่วยการทำงานของตับในการทำลายสารพิษ ช่วยปกป้องสุขภาพทางเดินอาหาร ทั้งเป็นสารอาหารแก่สมองได้ด้วย ในกรณีผู้ที่มีปัญหาดื้อต่ออินสุลิน สมองไม่สามารถใช้น้ำตาลกลูโคสได้อย่างมีประสิทธิภาพนำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ได้ง่าย MCT ซึ่งสมองสามารถนำไปใช้ได้จึงช่วยชะลอปัญหาอัลไซเมอร์ ร้อยละ 3-4 ของกรดไขมันอิ่มตัวในเนยคือกรดไขมันขนาดสั้นซึ่งดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายกว่า MCT นี่เป็นอีกข้อดีหนึ่งของเนย กรดไขมันขนาดสั้นที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากที่พบในเนยคือกรดบิวไทริก (Butyric acid) ที่มีคาร์บอน 4 ตัวเป็นสารอาหารที่ดีให้กับเซลล์ทางเดินอาหาร ช่วยฟื้นฟูสุขภาพทางเดินอาหารในผู้ป่วยที่เป็นโรค Crohn’s สุดท้ายยังช่วยป้องกันมะเร็งในทางเดินอาหารได้อีก นอกจากนี้กรดบิวไทริกยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายประการทั้งด้านการต่อต้านภาวะอักเสบ ป้องกันการสะสมไขมันตามผนังหลอดเลือดจึงอย่าแปลกใจเลยที่เนยช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ประโยชน์อีกส่วนหนึ่งของเนยคือกรดไขมันโมโนที่มีปริมาณไม่น้อยนั่นคือ 26% เป็นกรดไขมันที่พบมากในน้ำมันมะกอก ให้ประโยชน์ทางด้านการให้พลังงานที่มีคุณภาพไม่สร้างปัญหาข้างเคียงมากนัก ในเนยยังมีสารอาหารอื่นๆที่เป็นประโยชน์อีกจำนวนไม่น้อย อย่างเช่นมีคาร์โบไฮเดรตอยู่บ้างขณะที่มีน้ำตาลแลคโตสเพียงร้อยละ 0.06 ทำให้คนที่แพ้นมสามารถบริโภคเนยได้โดยไม่มีปัญหา เนยยังมีโปรตีนร้อยละ 0.85 ส่วนใหญ่เป็นเคซีนใครที่แพ้โปรตีนกลุ่มนี้อาจต้องระวังหน่อย นอกจากนี้เนยยังมีวิตามินชนิดที่ละลายในไขมันจำนวนหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพได้ค่อนข้างดี ข้อดีทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้ร้ายในอดีตกลายเป็นพระเอกด้านโภชนาการไปจนได้ในวันนี้ #drwinaidahlan, #ดรวินัยดะห์ลัน
