มะดีนะฮฺหนึ่งในสองมหานครศักดิ์สิทธิ์ของอิสลาม มีประชากร 1.6 ล้านคน มหาวิทยาลัยหลายแห่ง ใหญ่สุดคือมหาวิทยาลัยอิสลามแห่งมะดีนะฮฺ (Islamic University of Madinah หรือ IUM) มี 9 คณะวิชา นักศึกษา 3 หมื่นคน มาจาก 203 ประเทศ เป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศอย่างแท้จริง จำนวนนั้นเป็นนักศึกษาจากประเทศไทย 167 คน รวมนักศึกษาเก่าด้วยได้ประมาณ 600 คนวันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน 2564 หลังร่วมเปิดงานการประชุมสภามาตรฐานและมาตรวิทยากลุ่มประเทศอิสลามหรือ SMIIC ผมและทีมงาน ประกอบด้วย ตัวผม รศ.ดร.วินัย ดะห์ลัน ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล (ศวฮ.) และรองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ดร.อาณัฐ เด่นยิ่งโยชน์ ผช.ผอ.ศวฮ. ดร.มูฮัมมัด อมีน เจ๊ะหนุ ผู้แทนเลขาธิการ กอท. ต้องเดินทางไป IUM เพื่อเข้าพบอธิการบดี ซึ่งเป็นเจ้าชายหนุ่มในราชวงศ์ซาอูดพระนามว่า เจ้าชายมัมดูฮฺ บิน ซาอูด บิน ซูนัยญาน อาล ซาอูด ท่านมาพร้อมกับรองอธิการบดี 4 ท่าน ได้แก่ ศ. ดร. คอลิด อัลฮูบัยดี้ (ด้านวิชาการ) ศ.ดร. ฮาซัน อัลเอาฟี (บัณทิตศึกษา) ศ.ดร. อะฮหมัด อัลรีฟาอีย์ (กิจการนศ.) ศ.ดร. ฟะฮัด อัลซอฟีรีย์ (วางแผนและพัฒนา) เต็มทีมการปรึกษาหารือเป็นไปด้วยมิตรไมตรี ทีม MUI ศึกษาข้อมูลของศวฮ.เป็นอย่างดี บอกด้วยว่าอยากร่วมมือกับ ศวฮ.ด้านงานนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ เนื่องจากซาอุดีอาระเบียให้ความสนใจงานด้านนี้ ท่านบอกว่างานฮาลาลในส่วนการตัดสินด้านศาสนาอิสลามเป็นที่รับรู้กันอยู่แล้ว แต่งานด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลท่านทราบถึงชื่อเสียงของศวฮ. ผมให้ข้อมูลด้านการใช้แนวทางศาสนาร่วมกับวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยในการรับรองฮาลาล ปรึกษาหารือได้ 30 นาที ท่านขอเวลาทีมงานของเราอีก 30 นาทีเพื่อให้รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนได้ปรึกษาหารือต่อ เรื่องความร่วมมือด้านวิชาการและหลักสูตร สรุปเป็นว่า IUM สนใจเปิดห้องปฏิบัติการด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาล เจรจากันออกรสเนื่องจากท่านจบ PhD ด้าน Clinical Biochemistry สาขาเดียวกับผม จึงสนใจที่จะมาดูงานที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึงส่งนักวิทยาศาสตร์เข้าอบรม โดยอาจต้องรอให้สถานการณ์โรคระบาดดีขึ้นอีกระยะหนึ่งสิ่งที่รู้สึกคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับซาอุดีอาระเบียมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น คาดหวังว่าจะกลับมาเป็นปกติในอีกไม่ช้า #ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #IslamicUniversityofMadinah
