วัตถุที่มนุษย์สร้างและถูกส่งออกสู่อวกาศคือดาวเทียมสองดวงที่ชื่อ “โวเอเจอร์ 1” (Voyager 1) และ “โวเอเจอร์ 2” (Voyager 2) โดย โวเอเจอร์ 2 ถูกปล่อยออกไปก่อนเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ต่อมาวันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2520 ยานโวเอเจอร์ 1 จึงถูกปล่อยสู่อวกาศด้วยวิถีที่สั้นกว่าและเร็วกว่า ดาวเทียมทั้งสองเดินทางไปปฏิบัติภารกิจสำรวจดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในระบบสุริยะ (Solar system) ของดวงอาทิตย์ จากนั้นจึงเดินทางออกสู่ห้วงอวกาศลึก (Deep space) ในเวลานี้ เดือนตุลาคม พ.ศ.2567 ดาวเทียมทั้งสองออกเดินทางจากโลกไปแล้ว 47 ปีออกห่างจากโลกมากที่สุดชนิดที่ยังไม่มีดาวเทียมดวงไหนทำได้ โดยยานโวเอเจอร์ 1 เวลานี้อยู่ห่างโลก 165.4 AU หรือ 24,748 ล้านกิโลเมตร ขณะที่ยานโวเอเจอร์ 2 อยู่ห่างโลก 136.1 AU หรือ 20,400 ล้านกิโลเมตร ทั้งนี้ AU คือหน่วยดาราศาสตร์ เป็นระยะทางเฉลี่ยจากโลกถึงดวงอาทิตย์มีค่าใกล้เคียงกับ 150 ล้านกิโลเมตร
ยานโวเอเจอร์ 1 เวลานี้มีปัญหาติดต่อกลับมายังสถานีควบคุมในโลก ขณะที่ยานโวเอเจอร์ 2 ติดต่อสถานีภาคพื้นดินได้เป็นปกติ และยังคงเดินทางออกไปในห้วงอวกาศ อีกนาน 300 ปี โวเอเจอร์ทั้งสองจึงจะเดินทางถึงเขตของเมฆออร์ท (Oort cloud) ซึ่งเป็นเสมือนเปลือกนัทห่อหุ้มระบบสุริยะอยู่ แต่เมฆที่ว่านี้มีความหนามาก กว่าจะผ่านออกไปพ้นเปลือกนัทที่ว่านี้จะใช้เวลานานถึงสามหมื่นปี จึงจะนับว่าได้ออกไปนอกระบบสุริยะเป็นที่เรียบร้อย แม้จะเดินทางด้วยความเร็ว 61,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทว่ายานทั้งสองต้องใช้เวลาอีกสามหมื่นปีรวมใช้เวลา 73,000 ปีจึงจะเดินทางถึงดาวที่อยู่ใกล้ระบบสุริยะมากที่สุดนั่นคือ “อัลฟ่าเซนเทารี” (Alpha Centauri) ดาวดวงนี้อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์เพียง 4.2 ปีแสง แค่นี้ยังใช้เวลากว่า 7 หมื่นปี หากเทคโนโลยีการเดินทางยังทำได้แค่นี้ เลิกคิดถึงการผ่านออกไปนอกกาแลกซีทางช้างเผือกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 แสนปีได้เลย