ใน ค.ศ.1981 ชายอายุ 66 ปีคนหนึ่งได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ถึงสามคนว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ด้วยจิตใจที่หดหู่ เขาตัดสินใจทิ้งงานในสหรัฐอเมริกา ร่ำลาบุตรสามคนแล้วชักชวนภรรยาเดินทางกลับไปยังบ้านเกิดที่เมืองอิคาเรีย (Ikaria) บนเกาะในประเทศกรีซ ตั้งใจจะใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายที่นั่น
วันเวลาผ่านไปหลายปีกลับปรากฏว่าเขามีชีวิตอยู่ต่อมาอีกนานถึงสามทศวรรษโดยเสียชีวิตไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2013 เมื่ออายุได้ 98 ปี สิ่งที่รักษามะเร็งปอดของเขากระทั่งหายสนิทคือสภาพแวดล้อมใหม่กับการใช้ชีวิตไม่เร่งรีบ ตามวิถีธรรมชาติ เขาคนนี้ชื่อ “สตามาติส โมไรติส“ (Stamatis Moraitis) ชายที่หนีสงครามจากบ้านเกิดในกรีซไปอยู่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1943 เมื่ออายุได้ 28 ปี
ชีวิตในสหรัฐที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดกับการทำงานหาเงิน เป็นชีวิตแบบ fast life แย่งกันกินแย่งกันใช้ ห้อมล้อมไปด้วยอาหารอเมริกันสไตล์อุดมไปด้วยอาหารแปรรูปสูง (ultra-processed foods, UPFs) เมื่อกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเดิมซึ่งเป็นเกาะในกรีซ วิถีชีวิตเปลี่ยนเป็น slow life ต้องใช้ชีวิตในชนบท เพาะปลูกพืชปลอดสารพิษในสวนหลังบ้านซึ่งเป็นเนิน พื้นที่ไม่ราบเรียบนัก
แทบทุกวันในวัยแทบชราแล้วเขาต้องเดินขึ้นลงเนินเขาเพื่อเพาะปลูกมะเขือเทศบ้าง องุ่นบ้าง มะกอกบ้าง ทำแปลงผักใบ มีโอกาสกินเนื้อน้อยลง กินปลามากขึ้น ที่กินบ่อยคือถั่วเปลือกแข็ง ถั่วเมล็ดเปียก แถมด้วยสีด (seeds) อาหารส่วนใหญ่เป็นพืชผักชนิดขัดสีต่ำเป็นกลุ่ม plant-based unprocessed foods ที่สำคัญคือได้พบปะเพื่อนเก่า ๆ ที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันวัยเด็ก การมีสังคม ทำงานใช้แรงกายแทบทุกวัน ในที่สุดก็ลืมเลือนไปว่าเหตุผลที่กลับบ้านมาครั้งนี้ก็เพื่อละสังขาร กลับกลายเป็นต้องใช้ชีวิตตามวิถีใหม่ มีชีวิตยืนยาวต่อมากระทั่งอายุเฉียดร้อยปี เรื่องราวของชายคนนี้กลายเป็นแบบเรียนทางการแพทย์และโภชนาการให้กับผู้คนมากมายในยุคหลังที่ประสงค์จะยืดอายุขัยตนเองให้ยืนยาวขึ้น จึงขอเชิญชวนพวกเราลองมาเปลี่ยนวิธีการใช้ชีวิตจาก fast life เป็น slow life กันบ้าง ลองกันดูสักตั้งน่าจะดี
#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #ชายผู้โกงความตาย, #slowlifefastlife, #stamatismoraitis
