คนอาหรับเรียกบ่อน้ำซัมซัมว่า “บิรูซัมซัม” (ئر زمزم, Zamzam well) บ่อน้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ในมหามัสยิดอัลหะรอม นครมักกะฮฺ ซาอุดีอาระเบีย อายุของบ่อยาวนานหลายพันปี โดยน้ำไม่เคยเหือดแห้งแม้อยู่กลางทะเลทราย เคยมีการวัดอัตราการไหลของน้ำได้ค่า 8,000 ลิตรต่อนาทีหรือ 690 ล้านลิตรต่อวัน ปริมาณการใช้น้ำมีมาก เคยสูบออกสองวันได้ปริมาตร 1,380 ล้านลิตร เมื่อทิ้งไว้ 11 นาที น้ำไหลกลับลงบ่อสู่ระดับเดิม หมายถึงว่าน้ำไหลกลับเข้ามาในปริมาณมหาศาลถึง 125 ล้านลิตรต่อนาที แทบไม่น่าเชื่อ
ย้อนเวลากลับไป 1,842 ปีก่อนคริสตกาลหรือเมื่อเกือบสี่พันปีมาแล้ว บันทึกทางศาสนาระบุว่าเมื่อครั้งนบีอิสมาอีล อะลัยฮิสลาม ยังเป็นทารกแรกคลอดกลางทะเลทรายเกิดอาการขาดน้ำ นางฮาญัรผู้มารดาวิ่งเสาะหาน้ำระหว่างเนินเขาอัศเศาะฟา (Safa) และอัลมัรวะฮฺ (Marwah) ซึ่งอยู่ห่างกัน 450 เมตร วิ่งหาอยู่ 7 รอบเทียบเท่าระยะทาง 3.5 กิโลเมตร กระทั่งหมดแรงต้องย้อนกลับมาหาบุตรชายจึงพบน้ำไหลซึมจากพื้นตรงจุดที่บุตรชายนอนอยู่ นั่นคือการเริ่มต้นของบ่อน้ำซัมซัมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเนินเขาอัศเศาะฟานัก น้ำที่ไหลมีความแรงจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม ผู้บิดาจึงสร้างอาคารกะอฺบะฮฺ (Kaabah) ขึ้นโดยตั้งห่างจากบ่อน้ำซัมซัม 30 เมตร ห่างจากเนินเขาอัศเศาะฟา 130 เมตรและเนินเขาอัลมัรวะฮฺ 350 เมตร
บ่อน้ำซัมซัมนำพาคาราวานอาหรับเผ่าญุรฮุม (Jurhum) จากยะมันทางตอนใต้ที่เดินทางขึ้นไปค้าขายที่ดินแดนชาม (Sham) ทางตอนเหนือขอเข้ามาอาศัยอยู่ด้วยโดยสร้างเป็นชุมชนขึ้น หญิงสาวจากชนเผ่านี้แต่งงานกับนบีอิสมาอีลกำเนิดลูกหลานสืบเชื้อสายต่อเนื่องกว่ายาวนานกว่า 2,600 ปีกระทั่งถึงยุคนบีมูฮำมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม (ศ็อลฯ) อันนับเป็นยุคของอิสลาม
ในเชิงหลักการ อิสลามเริ่มขึ้นก่อนยุคนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) เฉพาะพิธีกรรมสำคัญ เช่น การละหมาด การถือศีลอด การทำฮัจญฺ ล้วนกำเนิดขึ้นในยุคสมัยนบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสลาม ทั้งสิ้น พิธีกรรมดังกล่าวได้รับการปฏิบัติสืบต่อกันมาในกลุ่มศาสนาอิบรอฮีมไม่ว่าจะเป็นฮานิฟ ยูดาย และคริสต์ ทว่าค่อย ๆ ผิดเพี้ยนไปกระทั่งจดจำไม่ได้ ก่อนถึงยุคนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ชนอาหรับเผ่าญุรฮุมถูกขับไล่โดยชนอาหรับเผ่าคุซาอะฮฺ (Kusaa) ชนญุรฮุมเวลานั้นทำการปิดปากบ่อน้ำซัมซัมก่อนละทิ้งพื้นที่เป็นผลให้บ่อน้ำหายไปเหลือแต่อาคารกะอฺบะฮฺที่กลายเป็นสถานที่บูชาเทวรูปของคนเดินทางผ่านไปมาระหว่างดินแดนยะมันทางตอนใต้กับชามทางตอนเหนือ กะอฺบะฮฺเต็มไปด้วยเทวรูปเคารพจำนวนมากถึง 360 รูป
กระทั่งถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่หก อับดุลมุตตอลิบ ปู่ของนบีมุฮัมมัด และฮาริษบุตรชายทำการค้นหาบ่อน้ำซัมซัมที่หายไปนานนับร้อยปีกระทั่งพบ ครอบครัวของอับดุลมุตตอลิบจึงกลายเป็นผู้พิทักษ์บ่อน้ำซัมซัมมานับแต่นั้น ต่อมาเมื่อนบีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ) นำอิสลามกลับมาเผยแผ่ มีการรื้อฟื้นและชำระพิธีกรรมในอิสลาม เป็นผลให้การละหมาด ถือศีลอด และฮัจญฺในอิสลามเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งพร้อมน้ำจากบ่อน้ำซัมซัม
#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #บ่อน้ำซัมซัม