เด็กเฉื่อยเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด

คำเตือนสำหรับผู้ปกครองและครูโรงเรียนเด็กเล็ก ระวังกันไว้หน่อย งานวิจัยพบว่าเด็กยุคใหม่ที่มีกิจกรรมการใช้กำลังกายน้อยลง มีภาวะความเฉื่อยมากขึ้น เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายง่ายขึ้นเมื่อยามหัวใจและปอดต้องทำงานหนัก สรุปเอาเป็นว่าเด็กกลุ่มนี้ยามโตขึ้นเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดมากขึ้นนั่นแหละ

คนที่ไม่ได้ฝึกให้หัวใจและปอดทำงานมากยามอยู่ในวัยเด็ก ร่างกายเคยชินกับกิจกรรมเฉื่อยหรือมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง (sedentary) เด็กกลุ่มนี้ยามเติบโตขึ้น เมื่อทำงานหนักหน่อย หัวใจและปอดก็คล้ายทำงานหนัก คนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ง่าย เรื่องราวนี้พิสูจน์ให้เห็นจริงแล้วจากสองสถาบันระดับสูงในประเทศฟินแลนด์ ได้แก่ the Faculty of Sport Sciences, University of Jyväskylä และ the Institute of Biomedicine, the University of Eastern Finland ทั้งสองสถาบันทำงานวิจัยร่วมกัน โดยใช้อาสาสมัครผู้ใหญ่จำนวน 153 คน ติดตามศึกษานาน 8 ปีตั้งแต่คนกลุ่มนี้ยังเป็นเด็ก สิ่งที่พบคืออาสาสมัครที่ในวัยเด็กมีพฤติกรรมเฉื่อย ออกกำลังกายหรือใช้แรงกายค่อนข้างน้อย คนกลุ่มนี้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดง่ายกว่าอาสาสมัครที่มีกิจกรรมทางกายมากกว่า

งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร the Journal of the American Heart Association เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2024 นี้เอง สิ่งที่ทีมวิจัยชี้แนะคือผู้ปกครองหรือครูในโรงเรียนระดับประถมศึกษาหรืออนุบาลหมั่นให้นักเรียนได้ทำกิจกรรมการใช้แรงกายมากขึ้น อย่าปล่อยให้เด็กนักเรียนเก็บตัวอยู่กับการเรียนในห้องเรียนมากเกินไป หมั่นปล่อยให้ลูกหลานหรือนักเรียนออกมาทำกิจกรรมที่ใช้แรงกายในสนามของโรงเรียนหรือนอกห้องเรียนหรือนอกบ้าน ไม่ปล่อยให้เด็กทำกิจกรรมที่เฉื่อยหรือเนือยนิ่งโดยไม่ใช้แรงกายนานเกินไป

รู้กันอยู่ว่าโรงเรียนในฟินแลนด์มีระบบการศึกษาที่ก้าวหน้ามากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โรงเรียนเหล่านี้คือต้นตำรับที่กระตุ้นให้กระทรวงศึกษาธิการของประเทศไทยเริ่มปฏิบัติตาม นั่นคือ การเพิ่มกิจกรรมแอคทีฟนอกห้องเรียนให้กับเด็กนักเรียนมากขึ้น โดยลดกิจกรรมเนือยนิ่งในห้องเรียนลง

#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #พฤติกรรมเฉื่อยเพิ่มโรคหัวใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *