สิบกว่าปีที่แล้วเคยมีงานวิจัยจากอังกฤษศึกษาการใช้พลังงานของร่างกายคนอ้วนเทียบกับคนปกติ เป็นการศึกษาในพื้นที่ปิดโดยบันทึกทุกกิจกรรมที่คนทั้งสองกลุ่มทำ มีการจัดอาหารที่ให้พลังงานเท่าๆกัน ข้อสรุปคือคนอ้วนมีกิจกรรมต่ำกว่าคนปกติ พักบ่อยกว่า เคลื่อนไหวร่างกายน้อยกว่า ขณะที่คนปกติร่างกายใช้พลังงานมากกว่า เคลื่อนไหวร่างกายมากกว่า ดังนั้น แม้คนสองกลุ่มได้รับอาหารที่มีพลังงานต่อวันเท่าๆกัน คนอ้วนใช้พลังงานน้อย ร่างกายจึงสะสมพลังงานในรูปไขมันได้มาก ข้อสรุปออกมาอย่างนั้นนั่นเป็นงานวิจัยที่ทำกันมานานเกินสิบปีแล้ว จำไม่ได้ว่านักวิจัยมหาวิทยาลัยไหนในอังกฤษเป็นผู้ทำ ปีนี้มีงานวิจัยทำนองเดียวกันทำโดยนักวิจัยมหาวิทยาลัยสุขภาพและวิทยาศาสตร์โอเรกอน (Oregon Health & Science University) ตีพิมพ์ในวารสาร Obesity กลางเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2023 โดยศึกษาในอาสาสมัคร 30 คน แบ่งเป็นสองกลุ่มคือกลุ่มที่เป็นโรคอ้วนค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 30 กับกลุ่มคนปกติที่ค่าดัชนีมวลกาย 18-25 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ผลการศึกษาคล้ายงานวิจัยจากอังกฤษทว่าให้รายละเอียดของเมแทบอลิซึมในร่างกายมากกว่า หากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย การรักษาย่อมทำได้ง่ายขึ้น ไม่วินิจฉัยหรือแนะนำกันสะเปะสะปะ นี่คือเหตุผลของการศึกษาลึกลงไปในรายละเอียดด้านเมแทบอลิซึมงานวิจัยได้ข้อสรุปว่าคนที่มีน้ำหนักตัวปกติ ระหว่างวันร่างกายจะใช้พลังงานสูงเนื่องจากการตื่น มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย ทั้งมีการทำงานใช้กล้ามเนื้อ ขณะที่คนอ้วนแม้พยายามให้ทำงานและเคลื่อนไหวร่างกายเท่าๆกันแต่กลับใช้พลังงานต่ำกว่าคนปกติ อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือช่วงพักผ่อนในเวลากลางคืน คนอ้วนนอนหลับไม่ดีนักร่างกายใช้พลังงานสูงกว่าคนปกติที่นอนหลับและพักผ่อนได้เต็มที่ หักลบกลบหนี้ระหว่างการใช้พลังงานช่วงกลางวันกับช่วงกลางคืนแล้วพบว่าคนอ้วนเหลือพลังงานมากกว่าคนปกติ เป็นผลให้เกิดการสะสมพลังงานในรูปไขมันเก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อของร่างกายทีมวิจัยให้ข้อสรุปว่ากลไกของนาฬิกาชีวิต (circadian clock) ที่อยู่ในสมองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานของฮอร์โมนอินสุลิน คนอ้วนช่วงกลางวันร่างกายหลั่งอินสุลินมากขึ้นเพื่อดึงน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เพื่อสร้างพลังงาน เมื่อใช้กลูโคสยาก ร่างกายโดยเฉพาะตับจึงหันไปใช้ฟรุคโตสแทน ใครที่บริโภคน้ำตาลทรายหรือไซรัปฟรุคโตสมากย่อมเป็นปัญหา ร่างกายคนอ้วนเร่งสะสมพลังงานจากฟรุคโตสแทนกลูโคสได้มากกว่า คำอธิบายที่ว่านี้ทีมวิจัยไม่ได้สรุป ผมในฐานะที่ทำงานด้านนี้มานานช่วยสรุปให้ นี่คือผลเสียของการไม่ดูแลร่างกายปล่อยให้อ้วน#ดรวินัยดะห์ลัน, #drwinaidahlan, #โรคอ้วน, #อินสุลิน, #circadianclock