ข่าวนี้ไม่ใหม่ นำเสนอเพื่อเป็นกำลังใจแก่นักกีฬาที่มีฝันจะทำลายสถิติเก่า
ศักยภาพของมนุษย์มีขีดจำกัดขึ้นกับสรีรภาพ ประสบการณ์และการฝึกฝนของแต่ละคน ข้อจำกัดนี้ทำให้การออกกำลังกายขนาดหนักนานเกินสองชั่วโมงทำได้ยาก เนื่องจากไกลโคเจนที่สะสมในกล้ามเนื้อมีจำนวนจำกัด หากจะออกกำลังกายต่อเนื่องให้นานเกินสองชั่วโมงต้องควบคุมไม่ออกกำลังกายถึงระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ของศักยภาพ หรือคอยระวังอย่าผิดจังหวะเปลี่ยนแอโรบิกไปเป็นแอนแอโรบิกการใช้อ็อกซิเจนเผาผลาญไขมันในร่างกายเกิดอาการสะดุดทำให้เกิดกรดแลคติคขึ้นในกล้ามเนื้อ ผลคือสภาวะล้าจนกล้ามเนื้อแทบมอดไหม้ สิ่งนี้เองที่ทำให้ศักยภาพของกล้ามเนื้อทำงานไปได้ไม่ถึงจุดที่หวัง อย่างไรก็ตามบรรดานักวื่งมาราธอนอาชีพทั้งหลายล้วนเป็นคนหัวดื้อต้องการเอาชนะขีดจำกัดของร่างกาย ทุกคนล้วนต้องการวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตรให้ได้ในเวลาที่ต่ำกว่าสองชั่วโมงด้วยกันทั้งนั้นทว่ายังไม่มีใครทำได้
เจ้าของสถิติโลกการวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตรโลกเป็นชาวเคนยาชื่อ “อีลีอุด คิปโชเก” (Eliud Kipchoge) หนุ่มคนนี้เป็นลูกครูที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไม่รู้จักพ่อ อายุ 35 ปี ส่วนสูง 1.67 ซม. น้ำหนักตัวที่แทบเป็นกล้ามเนื้อล้วนปลอดไขมันคือ 52 กิโลกรัม สถิติโลกที่ทำได้ในการวิ่งมาราธอนคือ 2:01:39 ชั่วโมงจากการแข่งขันเบอร์ลินมาราธอนวันที่ 16 กันยายน 2018 ทำลายสถิติเก่ามากถึง 1 นาที 18 วินาที สิ่งที่คิปโชเกพูดไว้น่าสนใจคือเขากล่าวว่าไม่ต้องการเป็นมนุษย์ที่วิ่งมาราธอนได้เร็วที่สุดในโลกแต่ต้องการวิ่งได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
อันที่จริงคิปโชเกเคยทำสถิติได้ต่ำกว่าสองชั่วโมงมาแล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นคล้ายการซ้อมวิ่ง กระทั่งวันที่ 12 ตุลาคม 2019 คิปโชเกก้าวถึงฝั่งฝันกับการเป็นนักวิ่งมาราธอนคนแรกที่วิ่งได้ต่ำกว่าสองชั่วโมง ในการแข่งขัน INEOS 1:59 Challenge กรุงเวียนนา ออสเตรีย ซึ่งจัดขึ้นเพื่อหานักวิ่งมาราธอน 42.195 กิโลเมตรที่วิ่งได้ต่ำกว่าสองชั่วโมงเป็นการเฉพาะ คิปโชเกใช้เวลา 1:59:40 ชั่วโมง กลายเป็นมนุษย์คนแรกในประวัติศาสตร์เทียบเท่ากับนีล อาร์มสตรอง นักบินอวกาศอเมริกันเคยไปเหยียบผิวดวงจันทร์เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติมาแล้ว กรณีนีล อาร์มสตรองถึงวันนี้ยังถกเถียงกันไม่จบว่าขึ้นไปถึงดวงจันทร์จริงหรือเปล่า ขณะที่สถิติของคิปโชเกวันนั้นไม่มีใครกล้าเถียงเพราะมีพยานรู้เห็นมากมาย
มีบ้างอ้างว่าสถานที่จัดแข่งขันคือ The Prater และช่วงเวลาของการจัดเอื้อต่อการทำลายสถิติ แต่อย่าเสียเวลาถกเถียงกันเลยเพราะสุดท้ายการแข่งขันวันนั้นไม่มีการบันทึกให้เป็นสถิติโลกแต่อย่างใด คิปโชเกกล่าวไว้ดีว่าวงการกีฬาไม่บันทึกไม่เป็นไร ทว่าประวัติศาสตร์บันทึกไว้แล้ว ความคิดเชิงบวกเช่นนี้นี่เองที่ทำให้คิปโชเกก้าวมาถึงจุดนี้
https://youtu.be/MoxFkJlVZlA